ว่าที่เจ้าของโฉนดบ้าน โต้ ไม่หวั่นแพ้คดี

สนามข่าว 7 สี - อุทาหรณ์คนซื้อบ้านทิ้งไว้ ต้องหมั่นไปตรวจสอบความเรียบร้อยเป็นประจำ ไม่งั้นอาจเหมือนเคสนี้ ถูกเพื่อนบ้านยึดไปเป็นของตนเอง โดยอ้างสิทธิการครอบครองโดยปรปักษ์

เป็นประเด็นที่ทำใครหลาย ๆ คนฉงนว่า เอ๊ะ แบบนี้ก็ได้หรือ ที่จู่ ๆ เข้าไปยึดบ้านคนอื่นมาเป็นของตนเอง เพราะไม่เคยเห็นเจ้าของบ้านมานานกว่า 30 ปี พร้อมอ้างว่าตนใช้สิทธิการครอบครองปรปักษ์ตามที่กฎหมายระบุไว้ ถึงแม้เจ้าของเดิมจะไกล่เกลี่ยขอบ้านคืน พร้อมเซ็นหนังสือยินยอมให้คืนบ้านแล้ว แต่ก็ยังไม่วายไปฟ้องร้องเขากลับ

ก่อนหน้านี้เพื่อนบ้านคู่กรณีได้ย้ายของออกจากบ้าน หลังเซ็นหนังสือยินยอมคืนบ้านให้ แต่ผ่านไปประมาณ 2 เดือน ก็ขนของกลับมาอีก พร้อมฟ้องศาลแพ่ง แสดงกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ กับเจ้าของบ้านเดิม โดยอ้างว่าที่ย้ายออก เพราะมีนักข่าวมาตาม

ด้านเจ้าของเดิมในฐานะผู้เสียหาย เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เพราะคู่กรณีเป็นคนพูดเองว่ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเธอปี 2560 แต่จะใช้คำว่าอาศัยอย่างเต็มปากก็ไม่ได้ เพราะสภาพบ้านก็ไม่เหมือนมีคนอยู่อาศัยเท่าไหร่ ตอนไปดูครั้งแรก เดือนกันยายน 2566 น้ำ-ไฟฟ้า ก็ไม่มี แถมวางรากฐานไว้แค่หลังบ้านที่ทำให้เป็นครัวเท่านั้น

ซึ่งเรื่องนี้ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายของผู้เสียหาย ชี้ชัดว่าคู่กรณีไม่สามารถอ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์ได้ เพราะ 1. ต้องเป็นการอยู่อาศัยโดยแสดงความเป็นเจ้าของ หมายความว่าบ้านหลังนั้นต้องมีสภาพพร้อมใช้ชีวิตภายในบ้านได้จริง ๆ และ 2. ต้องอยู่นาน 10 ปีขึ้นไป ด้วยข้อมูลเพียงเท่านี้ ทนายเดชาถึงกับกล้าฟันธงว่าชนะคดีแน่นอน

นับเป็นประเด็นที่ใครหลายคนจับตามองว่าจะจบอย่างไร เนื่องจากคนส่วนใหญ่มองว่า หากใช้กฎหมายการครอบครองปรปักษ์ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านแล้วหรือไม่ แค่สุ่มดวงไปหาบ้านที่ดูรกร้างสักหลังหนึ่ง และอยู่อาศัยให้ครบ 10 ปี เท่านี้เราก็ได้บ้านมาครอบครองฟรี ๆ แล้ว