ฝ่ายการเมืองค้านพฤติกรรมทะลุวัง

เช้าข่าว 7 สี - ฝ่ายการเมืองออกมาเคลื่อนไหว คัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของกลุ่มทะลุวัง แม้กระทั่ง สส. พรรคก้าวไกลเองก็ตาม

โดยก่อนหน้านี้ ทั้ง คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ คุณเพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ สส.ของพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเห็นว่าเป็นสิทธิ และเสรีภาพของเด็กกลุ่มนี้ที่สามารถทำได้ แต่การจะแสดงออกอะไรไปก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ละเมิด หรือก้าวล่วงผู้อื่น

ขณะที่ คุณอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาระบุว่า เรื่องนี้ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะที่เคยเป็นนายประกันให้กับ ตะวัน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ และควรเลิกใช้วาทะกรรมว่านี่เป็นการแสดงออกของคนรุ่นใหม่ เพราะนี่คือการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ว่าไม่ควรทำ

เช่นเดียวกับ คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ออกมาประสานเสียงว่าจะเสนอญัตติด่วนให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องพิจารณา ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัย และอารักขาบุคคลสำคัญ ให้สภาฯ พิจารณา เป็นการกระทำที่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมถอย และสร้างความแตกแยก

ส่วนคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ย้ำชัดว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่สภาฯ กำลังพิจารณาอยู่จะต้องไม่รวมผู้กระทำความผิด คดีทุจริตคอรัปชัน และมาตรา 112 รวมทั้งคดีอาญาร้ายแรง เพราะอาจทำให้คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย กลายเป็นการส่งเสริมการกระทำผิด

แต่คนหนึ่งที่ออกมาเห็นต่างจาก คุณอัครเดช ก็คือ คุณภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล เธอบอกว่า คุณอัครเดช ควรเลิกกล่าวหาคนอื่นว่าสร้างวาทกรรมแบ่งแยก จริง ๆ ต้องลองหันกลับไปทบทวนต้นตอความขัดแย้งการเมืองไทยก่อนว่าที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากอะไร และสิ่งที่สร้างความไม่สบายใจไม่น่าจะใช่คำพูดของคุณพิธา แต่น่าจะเป็นการผลักคนที่เห็นต่างให้ไม่มีพื้นที่พูดคุยหาทางออกกันมากกว่า

แต่ท่านนายกรัฐมนตรี ไม่รอใคร เมื่อวานนี้ เชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ท. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ พล.ต.ท. อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าหารือ และกำชับคือเรื่องมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ เพื่อไม่ให้ประเด็นนี้กลายเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้โจมตีทางการเมืองของทุกฝ่าย หรือมือที่ 3 มาฉวยสร้างสถานการณ์ ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัฐบาลมีหน้าที่ถวายการอารักขา และรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศของสถาบัน และเชื่อว่าเราคนไทยเห็นตรงกันในเรื่องนี้