ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ผกก.ยันให้ความเป็นธรรม หนุ่มกระบะร้อง ตร.ใช้ปืนจ่อหัวค้นรถ

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีหนุ่มขับกระบะไปซื้อถ่านหุงต้ม ถูกรถกระบะชายฉกรรจ์ขับมาจอดด้านท้าย แล้วถือปืนลงมาอ้างว่าเป็นตำรวจ เอาปืนมาจ่อหัวสั่งให้เปิดประตูรถ ก่อนรื้อค้นรถกระบะ เพื่อหายาเสพติด แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ค้นกระเป๋ากางเกงจนเงินเจ้าของรถหายไป 3,500 บาท เจ้าของรถคาใจว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ผ่านมากว่า 2 เดือนคดีก็ไม่คืบหน้า แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ ผู้กำกับ สภ.หนองแค ยอมรับแล้วว่า เป็นตำรวจในสังกัดจริง ๆ 2 นาย เป็นอาสาตำรวจอีกคน

เจ้าของรถมาร้องสื่อว่าชายฉกรรจ์กลุ่มนี้อ้างว่าเป็นตำรวจ แต่ไม่ยอมบอกชื่อยศหรือสังกัด แต่ใช้ปืนจ่อหัวตนเองขอค้นรถหายาเสพติด ค้นอยู่นานก็ไม่เจอสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นก็ให้ถอดกางเกงเพื่อตรวจค้น เจ้าของรถก็ถอดให้ แต่หลังค้นเสร็จ พบว่าเงินที่เจ้าตัวเตรียมมาซื้อถ่าน หายไป 3,500 บาท จึงไปแจ้งความที่ สภ.หนองแค จังหวัดสระบุรี แต่คดีผ่านไปกว่า 2 เดือนก็ไม่คืบหน้า ต่อมาก็ทราบว่าชายฉกรรจ์ 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองแค จังหวัดสระบุรี 2 คน อีกคนเป็นอาสาตำรวจ โชคดีที่วันเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์และเข้ามาช่วยดูการทำงานของชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ และยืนยันว่ารู้จักหนึ่งในตำรวจในกลุ่มนั้น เจ้าของรถกระบะก็กังวลว่า แบบนี้คดีของตนเองจะมีความเป็นธรรมได้อย่างไร จึงร้องเรียนให้สื่อช่วยนำเสนอ

ล่าสุดเมื่อวานนี้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.หนองแค จังหวัดสระบุรี ชี้แจงว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม อยู่ระหว่างการสอบพยานในเหตุการณ์เพิ่มอีก 7-8 ปาก เพราะบริเวณนั้นไม่มีวงจรปิด จึงทำให้เรื่องนี้ล่าช้า ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายแจ้งว่า เงินในกระเป๋ากางเกงหายไป 3,500 บาทนั้น ทางผู้เสียหายบอกว่า ไม่ได้ติดใจ ตำรวจอาจจะไม่ได้เอาไป อาจจะทำหายเอง แต่ที่ติดใจคือเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีการชักปืนขึ้นข่มขู่

เบื้องต้นผู้กำกับยอมรับว่า ชายทั้ง 3 คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจนั้น เป็นตำรวจ สภ.หนองแค จริง 2 นาย ตอนนี้ได้สั่งให้เขียนรายงานชี้แจงมาแล้ว และสั่งย้ายไปปฏิบัติการหน้าที่อื่นก่อน ส่วนอีกคนเป็นอาสาตำรวจ ขึ้นบัญชีช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างถูกต้อง โดยตำรวจทั้ง 2 นายอ้างว่ามีสายแจ้งว่า รถยนต์คันดังกล่าวซุกซ่อนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ ที่ต้องใช้อาวุธปืนเพราะต้องทำตามยุทธวิธี เพราะได้รับแจ้งมาว่าผู้เสียหายมีอาวุธปืน แถมผู้เสียหายยังมีประวัติทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า ตำรวจกลัวจะเกิดอันตรายได้ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งจะไม่มีการเข้าข้างใคร ถ้าตรวจสอบแล้วเจ้าหน้าที่กระทำความผิดจริง เข้าข่ายรังแกประชาชนมีโทษถึงไล่ออกได้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark