แฉนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง อักษรย่อ "ย" ยืมเงินแฟนคลับแล้วไม่คืน

เช้านี้ที่หมอชิต - สาวใหญ่เครียดหนัก ถูกนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดังยืมเงินไป 300,000 บาท ไม่ยอมคืน ผ่านมา 4 ปีแล้ว ถูกบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง ผู้เสียหายเครียดจนคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว โชคดีมีคนมาเห็นก่อน จึงช่วยชีวิตไว้ทัน

นางสาวจารุวรรณ เอี่ยมศรีดี อายุ 37 ปี ผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกศิลปินนักร้องลูกทุ่งชื่อดังยืมเงินไป เดินทางมาขอความช่วยเหลือจาก นางสาวชลิดา พะละมาตย์ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ให้ช่วยเอาผิดทางกฎหมายกับนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง ตัวอักษรย่อ "ย" ที่เอาเงินเธอไป เธอไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีทนายความชื่อดังเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย จนนักร้องรายนี้รับปากจะใช้หนี้ แต่สุดท้ายไม่จ่ายเหมือนเดิม

นางสาวจารุวรรณ เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นแฟนคลับตัวยงของนักร้องลูกทุ่งสาวท่านนี้ รู้จักกันมา 20 ปี เมื่อก่อนนักร้องท่านนี้มีงานแสดงที่ไหน ก็จะตามไปชมที่นั้น ต่อมาได้สนิทสนมกันมากขึ้น ช่วงปี 2562 ทางนักร้องสาวได้ทักมายืมเงินครั้งแรก 4,000 บาท อ้างว่าจะไปจ่ายค่าไฟ ต่อมาขอยืมอีกเรื่อย ๆ โดยบอกว่าเดี๋ยวเงินค่าตัวออกจะคืนให้ ด้วยความที่รักและชื่นชอบ บวกกับเป็นคนมีชื่อเสียง จึงให้ยืมเงินทุกครั้ง หลัง ๆ มีการยืมเงินแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นยืมเงินไปจ่ายค่าอาหาร ยืมไปซื้อของใช้ในบ้าน ทุกครั้งที่ยืมจะพูดทิ้งท้ายว่า "เอ็งเป็นน้องแท้ ๆ ของพี่ พี่รักเอ็งเหมือนน้องแท้ ๆ"

ตอนหลังนักร้องสาวมายืมตนอีก 50,000 บาท อ้างว่าจะนำเงินไปไถ่ถอนที่ดินที่เก่า เพื่อจะนำไปค้ำประกันเงินกู้ที่ใหม่ ที่ให้เงินเยอะกว่า จะได้มีเงินมาใช้หนี้ตนทั้งหมด ตนจึงนำรถยนต์ไปรีไฟแนนซ์ แล้วนำเงินมาให้ แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมใช้หนี้

พอตนมาย้อนดูสลิปการโอนเงินที่ศิลปินรายนี้ยืมไปมีถึง 112 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท นี่ไม่รวมเงินที่โอนไปให้ซื้อของโดยเสน่ห์หาอีก

ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2563 ตนเริ่มทวงเงินที่ถูกยืมไปคืน แต่ก็ถูกผลัดผ่อนมาตลอด อ้างนู่นอ้างนี่สารพัด นัดหมายว่าจะคืนก็ไม่คืน จากนั้นได้บล็อกช่องทางการติดต่อทุกช่องทาง ตนไม่สามารถทวงเงินได้อีก ทำให้ตนเครียดมาก หนี้สินท่วมตัว หาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินผูกคอตัวเองบนรถขนของหวังจบชีวิต ตอนนั้นไม่ได้สติไปแล้ว แต่มีพนักงานกวาดถนนมาพบ เข้ามาช่วยแก้เชือกไว้ทัน ถึงรอดชีวิตมาได้ 

นางสาวชลิดา มูลนิธิเป็นหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองได้พาผู้เสียหายไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นหลักฐาน จากนี้จะให้ทนายความร่างเอกสารไปไถ่ถามอีก หากตกลงกันไม่ได้ก็จะฟ้องแพ่งเพื่อเรียกร้องเงินคืน และจะดูด้วยว่าที่ยืมเงินทั้งหมด 112 ครั้ง มีครั้งไหนเข้าข่ายคดีอาญาหรือไม่