ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สลด! หลวงปู่ถูกเผามรณภาพ ร่างเหลือแค่ท่อนบน

เช้านี้ที่หมอชิต - สุดสลด พบร่างหลวงปู่มรณภาพปริศนากลางป่า สุดสยอง เพราะร่างถูกไฟไหม้เหลือแค่ครึ่งตัวท่อนบน ส่วนท่อนล่างหายไป

ตำรวจ สภ.หนองไผ่ เข้าตรวจสอบร่างพระทองพูน ลีอินทร์ หรือ หลวงปู่พูน อายุ 75 ปี ที่นอนคว่ำหน้ามรณภาพ ภายในวัดป่าเกษมสุข หมู่ 8 ตำบลเพชรละคร อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่น่าสยองขวัญ คือ สภาพร่างของพระทองพูน ลำตัวท่อนบน ตั้งแต่ศีรษะ แขน หน้าอก ถูกไฟเผาไหม้เกรียม ไม่มีส่วนท่อนล่างที่หายไป พบเพียงเศษกระดูกบางส่วน

สอบถาม นายอุเทน มาสว่าง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ซึ่งปกติจะเป็นคนพาหลวงปู่พูนออกบิณฑบาตทุกเช้า เล่าว่า เมื่อเช้าไม่เห็นหลวงปู่ ไฟก็ไม่เปิด ตนเรียกเท่าไรก็ไม่มีเสียงตอบรับ สักพักได้ยินเสียงไฟไหม้ จึงเดินไปดู พร้อมเรียกรถดับเพลิงมาดับไฟ
หลังจากดับไฟตนกลับมาเจอญาติโยมมารอทำบุญแต่เช้า หลายคนสงสัยว่า ทำไมหลวงปู่ยังไม่ตื่น ตนและชาวบ้านจึงเข้าไปดูในห้องหลวงปู่ ก็ไม่เจอ จึงช่วยกันเดินตามหา แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ จึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ผู้ใหญ่บ้านจึงเรียกให้ชาวบ้านช่วยกันตามหา จนกระทั่งมีชาวบ้านพบร่างหลวงปู่ ถูกไฟไหม้อยู่ในกองเพลิงบริเวณที่เกิดไฟไหม้ ซึ่งจุดดังกล่าว ตนเดินวนดูหลายรอบแล้ว แต่ไม่คิดว่า จะเป็นร่างของหลวงปู่

ด้านนายสุวรรณ์ โม้หนองบัว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บอกว่า หลังจากเจอร่างหลวงปู่พูนอยู่ในกองเพลิง สร้างความเสียใจให้ญาติโยมเป็นอย่างมาก ปกติหลวงปู่พูนจะจำวัดอยู่รูปเดียว ส่วนสาเหตุยังไม่มีใครทราบว่าเพราะเหตุใด ท่านถึงถูกไฟไหม้จนมรณภาพ

ขณะที่ นางสุพรรณ์ ชะดี ญาติของหลวงปู่พูน เล่าว่า เจอหลวงปู่ครั้งสุดท้ายเมื่อวันพระที่แล้ว ก็พูดคุยกันปกติ ไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่ดินของหลวงปู่ก็โอนมาเป็นชื่อของตนหมดแล้ว แต่ที่ผ่านมา ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า มีคนมาขอยืมเงิน คนที่มายืมคงคิดว่ามีเงินเยอะ แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะไม่ได้ถาม

เบื้องต้นชาวบ้านเชื่อว่า หลวงปู่พูนน่าจะถูกฆาตกรรม คาดว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาชิงทรัพย์ หรือ ขโมยทรัพย์สิน แล้วหลวงปู่ทองพูนเห็นเข้าจึงทำร้ายจนมรณภาพ ก่อนจุดไฟเผาเพื่อทำลายหลักฐานอำพรางคดี ซึ่งในพื้นที่จะมีกลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุมเสพยาบ้าจำนวนมาก จึงอยากให้ตำรวจเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุ

ทีมข่าวสอบถาม พลตำรวจตรี สารนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดไม่มีร่องรอยการรื้อค้น และไม่มีทรัพย์สินสูญหาย ส่วนสภาพแวดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ ยังไม่พบวัสดุที่จะนำมาใช้เผาทำลายศพ เช่น ท่อนฟืน หรือ ยางรถยนต์ หลังจากนี้ได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark