ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

อีกแล้ว คดีฟ้องครอบครองปรปักษ์ ที่ดินเปล่าย่านห้าแยกปากเกร็ด

สนามข่าว 7 สี - มาอีกแล้ว คดีฟ้องครอบครองปรปักษ์ คราวนี้เกิดขึ้นกับที่ดินเปล่าย่านห้าแยกปากเกร็ด ของหญิงอายุ 76 ปี และ 75 ปี ที่เป็นผู้เสียหาย และเข้าขอความช่วยเหลือจากทนายเดชา ให้ช่วยด้านคดี เพราะโดนบุกรุกมาสร้างเพิงพักอาศัย ตั้งแต่ปี 2546 ผู้เสียหายแจ้งความมาตลอด 20 กว่าปี แต่คดีไม่คืบหน้า

ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ นางสาวรัตนา ชาญพานิชย์สกุล อายุ 76 ปี พร้อมน้องสาว เข้าขอความช่วยเหลือด้านคดีความ หลังถูกผู้บุกรุกที่ดินย่านห้าแยกปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จำนวน 2 แปลง รวมเกือบ 1 ไร่ และถูกยื่นฟ้องครอบครองปรปักษ์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา

ผู้เสียหายบอกว่า พ่อแม่ของตนซื้อที่ดินไว้ตั้งแต่ปี 2503 แต่เป็นที่ตาบอด เลยไม่ได้เข้าไปทำอะไร ต่อมาปี 2546 พ่อและแม่แบ่งที่ดินให้ตนเองกับน้องสาวคนละแปลง เนื้อที่ 3 งาน 27 ตารางวา และ 3 งาน 26 ตารางวา

พอได้ที่ดินมาแล้ว ก็เลยเข้าไปสำรวจดูช่วงเดือนกันยายน ปีเดียวกัน กลับพบว่ามีคนบุกรุกเข้ามาสร้างเพิงพักอาศัยในที่ดินของตน เลยไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด แต่คดีกลับไม่คืบหน้า คนบุกรุกก็เปลี่ยนหน้าเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ ก็เลยไปแจ้งความซ้ำในปี 2559 ต่อเนื่องถึง 2565 และ 2566 รวม 4 ครั้ง ในรอบกว่า 20 ปี พร้อมพยายามเจรจาให้ผู้บุกรุกย้ายออก แต่ไปทีไรก็ไม่เคยเจอตัว ส่วนคดีล่าสุด ตอนนี้อยู่ที่ชั้นอัยการ ยืนยันว่าที่ผ่านมาไปเสียภาษีที่ดินทุกปี และได้แวะเข้าไปดูที่ดินตลอด

ทีมข่าว7HD ลงพื้นที่ไปดูที่ดินของผู้เสียหาย พบว่าเป็นที่ดินตาบอด ล้อมรอบด้วยหมู่บ้านการเคหะชุมชนนนทบุรี ที่ดินดังกล่าวมีต้นไม้ขึ้นรก มีป้ายห้ามเข้า-ห้ามผ่าน และพบเพิงพักอาศัยที่สร้างด้วยไม้และสังกะสี ดูแล้วไม่มั่นคงถาวร สอบถามชาวบ้านระแวกนั้นบอกว่า คนที่มาอยู่อาศัยได้ขอต่อน้ำประปา และไฟฟ้า จากหมู่บ้านใกล้เคียงมาใช้ และอาศัยอยู่มานานหลายสิบปีแล้ว

ทีมข่าวโทรคุยกับทนายความของฝั่งผู้ฟ้องครอบครองปรปักษ์ ให้ข้อมูลว่า ลูกความตนเองเป็นคนไม่มีฐานะ จึงอาสาเข้ามาช่วยคดีนี้ เพราะผู้อาศัยได้แจ้งกับตนว่า ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นที่ดินมีเจ้าของ จนได้รับแจ้งจากตำรวจเมื่อปีที่แล้ว

แต่ยอมรับว่า เมื่อ 5-6 ปีก่อน เจ้าของที่ดินได้ติดต่อมาหาผู้ที่อยู่อาศัย เพื่อให้ทำสัญญาเช่า แต่ทางผู้อาศัยไม่ยินยอม และอ้างว่าอยู่มาแล้ว 30 ปี ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปพิสูจน์ในภายหลัง และยืนยันจะฟ้องร้องครอบครองปรปักษ์ต่อไปตามหลักกฎหมาย

ด้าน ทนายเดชา ฝากถึงผู้บุกรุกที่เข้าไปสร้างที่พักอาศัยในที่ดินของผู้อื่น ให้ดูคดีบ้านอากู๋เป็นตัวอย่าง เพราะอาจถูกดำเนินคดีได้ พร้อมตอกกลับถึงนักกฎหมายที่ช่วยฟ้องร้องครอบครองปรปักษ์ ต้องมีจริยธรรม ให้ระวังบาปบุญคุณโทษด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark