ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สาวเข็นแม่ป่วยไปทวงหนี้ โดนลูกหนี้ฉีดน้ำใส่

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องวุ่น ๆ อีกแล้วระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ เมื่อสาวเจ้าหนี้พาแม่ชราที่ป่วยนั่งบนรถเข็น บุกไปทวงหนี้ที่ร้านเสริมสวยในหมู่บ้าน ปรากฎว่า รอบแรกโดนอะไร

สาวเข็นแม่ป่วยไปทวงหนี้ โดนลูกหนี้ฉีดน้ำใส่
นี่เป็นคลิปในมือถือของหญิงสาวที่ระบุว่าเป็นเจ้าหนี้ ที่เดินทางไปทวงหนี้เมื่อ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา แล้วถูกพี่สาวลูกหนี้คู่กรณีสาดน้ำใส่ และฉีดน้ำไล่ ต่อมาวันที่ 8 มีนาคม 2567 หญิงสาวพาแม่นั่งรถเข็นไปทวงหนี้ที่ร้านเสริมสวยดังกล่าวอีกครั้ง และจุดจบของเรื่องเหมือนกับครั้งก่อน คือโดนพี่สาวของลูกหนี้ ใช้หัวฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดไล่ ปรากฎว่า รอบนี้ น้ำที่ฉีดเข้าตาแม่ที่นั่งบนรถเข็น และใบหน้ามีรอยแดง และเจ้าหนี้เองก็สงสัยว่า น้ำที่ฉีดมามีกลิ่น ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำอะไร

เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี พบกับเจ้าหนี้ คือ นางสาวจิตรทิวา เพียรพิทยากุล หรือ ขนม อายุ 41 ปี อาชีพค้าขายออนไลน์ โดยเปิดเผยว่า ตนรู้จักสนิทสนมกับ นางสาวโจ เจ้าของร้านเสริมสวยในหมู่บ้าน จากการเป็นลูกค้าร้านเสริมสวยของเขา แต่เมื่อ 2 พฤศจิกายน 2565 คู่กรณีโทรมาขอยืมเงิน 5,000 บาท ตนให้เซ็นสัญญา ก่อนให้ดอกเบี้ยตนมา 500 บาท ต่อมาเดือนตุลาคม ปี 2566 ตนกู้ยืมเงินจากสินเชื่อแห่งหนึ่ง คู่กรณีทราบข่าวมาขอยืมอีก 30,000 บาท จากนั้นขอเพิ่มอีก 20,000 บาท บอกว่าจะเอาไปปล่อยกู้ให้ เพราะสงสารที่ตนมีแม่พิการติดเตียง และค่าใช้จ่ายเยอะ จากนั้นก็คืนเงิน แล้วก็วนเวียนยืมอีก จนยอดเงินอยู่ที่ 70,000 บาท

ช่วงหลังตนรู้สึกแปลก ๆ จึงทวงเงิน และทำสัญญากู้ยืมเงิน คู่กรณีบอกว่าจะคืนเงินให้ทั้งหมดวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ตามสัญญา แต่คู่กรณีประสบอุบัติเหตุช่วงเดือนพฤศจิกายน จนขอทยอยใช้เงินคืนอาทิตย์ละ 1,000 บาท ช่วงหลังตนมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ ต้องการเงินคืนมากกว่าเดิม แต่คู่กรณีไม่ให้ ไม่ยอมเจรจา แถมสร้างเรื่องว่าตนไปด่าเขาลับหลัง ทั้งที่ไม่เคยทวงหนี้ต่อหน้าใคร แต่ นางสาวโจ ยืนยันจะไม่คืนเงินให้ ตนจึงไปร้องศูนย์ดำรงธรรม คู่กรณีก็ปฏิเสธที่จะไปเจรจา

ล่าสุดตนไปทวง 2 ครั้ง คู่กรณีกลับฉีดน้ำไล่ โดนตาแม่ของตน จึงพาแม่ไปตรวจดวงตาว่าเป็นอันตรายหรือไม่ จึงนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ สส.โป้ง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จังหวัดนนทบุรี ให้ช่วยเจรจาหาทางออก เพราะไม่ใช่แค่เรื่องทวงหนี้ แต่คู่กรณีสร้างเรื่องว่าตนไปแย่งสามีคนอื่น ทำให้ได้รับความอับอายด้วย

นอกจากกรณีการทวงหนี้ของ นางสาวจิตรทิวา ปรากฏว่า เจ้าของร้านเสริมสวยรายนี้ ยังมีปัญหากับลูกบ้านรายอื่น ๆ ด้วย เช่น นายเอก อายุ 51 ปีซึ่งรับจ้างทำงานตัดสังกะสีถูก นางสาวโจ ไปโพสต์ด่าในเฟซบุ๊ก กล่าวหาว่าส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน ทำให้ได้รับความอับอาย ส่วน นายกอล์ฟ อายุ 45 ปี พ่อค้าต้มเลือดหมู ถูก นางสาวโจ อัดคลิป และส่งไปให้เพื่อนบ้านในหมู่บ้านกล่าวหาว่าค้ายาเสพติด ถูกตำรวจค้นบ้านมาแล้ว ทั้งที่ไม่ได้เป็นเรื่องจริง ซึ่งลูกบ้านที่มีปัญหาไปแจ้งความที่ สภ.ไทรน้อย มานานแล้ว แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องเรียน สส.พรรคก้าวไกล เช่นกัน

ซึ่งทาง นายเกียรติคุณ ต้นยาง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เรื่องนี้มีหลายเรื่องราว มีผู้ร้องเรียน นางสาวโจ เกือบครึ่งหมู่บ้าน ทั้งเรื่องกู้ยืมเงิน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พรบ.คอมพิวเตอร์ ตนจะต้องเรียบเรียงในแต่ละเรื่อง เรื่องสัญญากู้ยืมจะติดตามทวงถาม และฟ้องแพ่ง ส่วนเรื่องข้อความในการกู้ยืมเงินหากเป็นข้อความเท็จ อาจจะผิดในเรื่องการฉ้อโกง แต่จะต้องพูดคุยและสอบถามข้อเท็จจริงกับอีกฝั่งหนึ่งด้วย ส่วนกรณีคลิปฉีดน้ำ จะเป็นในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย และต้องรอดูผลตรวจตาจากคุณหมอว่าได้รับอันตรายแค่ไหน

ลูกหนี้โต้ไม่จ่ายหนี้ ฉุนปล่อยคลิปประจาน
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปร้านเสริมสวยคู่กรณี โดย นางสาวโจ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยเล่าในมุมตัวเองว่ารู้จัก นางสาวขนม คู่กรณีเพราะพาแฟนทอมมาทำผมที่ร้าน บอกตนว่าจะเอาบ้านไปเข้าแบงค์ ให้ตนปล่อยเงินกู้ให้หน่อย อยากมีรายได้ มีเงินแค่ 30,000 บาท ตนเลยบอกเดี๋ยวตนปล่อยให้ แต่ต้องเอามาอีก 20,000 บาท รวมเป็น 50,000 บาท

หลังจากได้เงินตกลงกันว่าจะจ่ายรายเดือน แต่ลูกค้าของตนจ่ายเป็นรายวัน วันที่จ่ายเงินเลยไม่ตรงกัน ทาง นางสาวขนม เลยโวยวายไม่พอใจ ตนส่งดอกให้ตลอด ไปบอกคนอื่นว่าให้ตนกู้เงินแล้วไม่คิดดอก แต่จริง ๆ แล้วคิดดอกตลอด เคยกู้ 3,000 บาท แต่วันเดียวตนจ่ายคืน 3,300 บาท ตนหาลูกค้าให้ เพราะเห็นใจแม่เขาที่ป่วย จนวันหนึ่งระหว่างที่ตนนั่งอยู่กับลูกค้า นางสาวขนม แช็ตคุยกับลูกค้าของตน ตนแอบมองเห็นหน้าจอลูกค้า มีข้อความแช็ตว่าตนว่า สะตอ ทั้งที่ตนไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย

ต่อมามีคนอัดคลิปเสียงตอนตนนั่งคุยเรื่องหนี้สิน เรื่องไม่มีจะกิน เรื่องส่วนตัว แล้วส่งไปให้ นางสาวขนม แล้วเกิดการส่งต่อกันทั่วหมู่บ้าน ตนโมโหเลยไม่ส่งเงินให้ บอกให้ไปฟ้องศาลเอาเอง คลิปในมุมภายในร้านตอนฉีดน้ำ เธอบอกว่าการประจานทำให้อับอาย ส่งผลเสียหายกับร้านเสริมสวย ทำให้ลูกค้าหายหมด

ส่วนเหตุการณ์มาทวงเงินแล้วพี่สาวตนฉีดน้ำใส่ เพราะ นางสาวขนม กับแม่เปิดประตูเสียงดังเข้าร้าน พี่สาวตนไล่ให้กลับแต่ไม่ยอมกลับ จึงฉีดน้ำใส่ไป 2 ครั้ง น้ำที่ฉีดเป็นน้ำเปล่าต่อกับก๊อกน้ำไม่ได้มีสารเคมีอะไร ส่วนเรื่องหนี้สินถ้าเรียกไปไกล่เกลี่ยก็ยินดี

จบด้วยดี เจ้าหนี้-ลูกหนี้ เคลียร์ใจ
ต่อมาเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) เรื่องหนี้สินจบลงได้ด้วยดี เมื่อ สส.โป้ง พรรคก้าวไกล ได้นัดคู่กรณีมาเจรจากัน ที่ สภ.ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยพูดคุยเจรจาต่อหน้าพนักงานสอบสวน ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปว่า นางสาวโจ จะชดใช้หนี้สินที่ติดค้างอยู่ 63,000 บาท ให้ นางสาวจิตรทิวา โดยจะผ่อนชำระอาทิตย์ละ 1,000 บาท เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2567 จนกว่าจะหมดหนี้สิน

โดย นางสาวจิตรทิวา ระบุว่า อาจจะต้องทำสัญญาเพิ่ม โดยทำบันทึกข้อตกลงกับทางร้อยเวรที่ สภ.ไทรน้อย ก่อน ส่วนเรื่องฝั่งคู่กรณีฉีดน้ำใส่แม่ของตน ต้องรอผลตรวจจากแพทย์อีกครั้ง ว่าเป็นอย่างไร

ส่วน นางสาวโจ ลูกหนี้กล่าวว่า วันนี้ได้ข้อสรุปเรื่องหนี้สิน ส่วนเรื่องการอัดคลิปเสียงตนส่งไปให้บุคคลอื่น ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนกรณีฉีดน้ำ ตนยอมขอโทษยาย หากพี่สาวฉีดน้ำไปโดนตาจนบาดเจ็บจริง ๆ ส่วนในเรื่องอื่นตนไม่ถอยแน่นอน ได้ข่าวมาว่าจะไล่ตนออกจากหมู่บ้านด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark