เจอแล้ว ชายหัวร้อนทุบรถยนต์บนทางด่วน

สนามข่าว 7 สี - ชายที่ก่อเหตุเดินขึ้นไปบริเวณทางขึ้นทางด่วนเลียบแม่น้ำ ถนนพระราม 3 ที่ดูเหมือนจะโมโห เรียกรถของผู้เสียหายแล้วไม่มีใครยอมให้ขึ้นรถ ใช้หมวกกันน็อกฟาดจนรถของหญิงสาวได้รับความเสียหาย ตำรวจไปพาตัวมาดำเนินคดีแล้ว

เป็นโอกาสที่เจ้าตัวได้พูดกับสื่อมวลชน หลังเข้าให้ปากคำกับตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ อยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าตัวบอกว่า "เพราะเขาไม่มีน้ำใจ" นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่าที่ขึ้นไปบนทางด่วนเพราะยืนรอรถ และกำลังหาทางออกจากทางด่วน ก่อนหน้านี้ได้โบกเรียกรถมาหลายคันแล้ว แต่ไม่มีใครจอด แต่พอถามว่าแล้วทำไมไม่ขอร้องกันดี ๆ หรือมีอะไรอยากฝากถึงผู้เสียหายหรือไม่ เจ้าตัวไม่ตอบคำถามเหล่านี้ ก่อนเดินเข้าห้องประชุมไป

นอกจากผู้ก่อเหตุแล้ว ก็ต้องไปฟังฝ่ายผู้เสียหายบ้าง ก็บอกว่า หลังเกิดเหตุก็ยังมีอาการหวาดระแวง เท่าที่ได้คุยกับผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนตัวไม่อยากติดใจเอาความ เพราะอีกฝ่ายเหมือนมีอาการทางประสาท พูดจาไม่รู้เรื่อง เรื่องค่าเสียหายคงจะให้ประกันเป็นผู้ดูแล ส่วนเรื่องทางคดีต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไป

เรื่องกระบวนการทางคดี ผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ บอกว่า เบื้องต้นจะแจ้ง 2 ข้อหา ฐานทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งจริง ๆ แล้วข้อหานี้สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ แต่เพราะผู้ก่อเหตุเหมือนมีปัญหาทางจิต จึงต้องให้ญาติมาร่วมรับฟังเรื่องการดำเนินคดีด้วย ส่วนข้อหาข่มขู่ทำให้ตกใจกลัวฯ เป็นข้อหาลหุโทษ ยอมความไม่ได้ ต้องดำเนินการตามขั้นตอน

ล่าสุด ผู้กำกับการเปิดเผยเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาว่า สามารถติดต่อญาติของผู้ก่อเหตุได้แล้ว แต่ญาติปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ และตัดขาดผู้ต้องหาไม่ขอยุ่งเกี่ยวใด ๆ ทั้งสิ้น ให้ตำรวจดำเนินการทุกเรื่องได้ทันที ทั้งเรื่องกฎหมายและการตรวจสอบสภาพอาการทางจิต

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณานำตัวผู้ก่อเหตุส่งให้แพทย์พิจารณาสภาพทางจิตว่าอยู่ในขั้นใด มีสติสัมปชัญญะในระหว่างการก่อเหตุหรือไม่ และมีสติสัมปชัญญะพอที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาลตามข้อหาข่มขู่ให้ตกใจ ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาตามขั้นตอน และส่งฟ้องต่อศาลหากได้รับผลการวินิจฉัยจากแพทย์อย่างเป็นทางการ