จับวัยรุ่นสร้างตัว รวยเร็ว เจ้าของเว็บพนันเปิดฟาร์มควายงามบังหน้า
ดีอี-สอบสวนกลาง ปิด 525 เว็บพนัน จับผู้ต้องหา 44 คน ระดับเจ้าของเว็บไซต์ วัยรุ่นสร้างตัว รวยเร็วภายใน 1-2 ปี ซื้อควายชนะประกวด เปิดฟาร์มควายงามบังหน้า ฟอกเงินว่ารวยจากการขายน้ำเชื้อควาย
วันนี้ (14 มี.ค.67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และ พต.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ร่วมแถลงผลปฎิบัติการ "สับสวิทซ์ปิดตาย 525 ลิงก์เว็บพนัน ดับฝันวันรุ่นสร้างตัว" ซึ่งนำไปสู่การสั่งปิด 525 เว็บพนัน แบ่งเป็น 10 กลุ่มหลายจังหวัด ซึ่งผู้เกี่ยวข้องเป็นเจ้าของเว็บพนัน เป็นกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ หรือรวยอย่างรวดเร็วภายในเวลา 1-2 ปี
ข้อมูลในชั้นสืบสวนสอบสวนนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับ 63 หมายจับ ตรวจค้น 31 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้ 44 คน ตั้งแต่ระดับเจ้าของเว็บไซต์ กลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้าหรือคอกม้า ไปจนถึงผู้รับจ้างถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม แบ่งเป็น กลุ่มผู้รับผลประโยชน์ 5 คน กลุ่มเปิดบัญชีม้า 24 คน กลุ่มถอนเงิน 8 คน และกลุ่มทำเว็บพนัน 7 คน ตรวจยึดของกลางประมาณ 2,000 รายการ มูลค่า 69 ล้านบาท และตรวจพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ กล่าวอรีกว่า เครือข่ายพนันออนไลน์รายนี้ มีความแตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ ซึ่งส่วนมากเซิร์ฟเวอร์พนันออนไลน์ จะอยู่ในต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบจับกุม แต่คดีนี้เซิร์ฟเวอร์อยู่ในไทย โดยกระจายอยู่ 3 – 4 จังหวัด ในภาคใต้ ภาคอีสาน และกทม.
ทั้งนี้ จากการขยายผลสอบสวนเว็บพนันกลุ่มหนึ่ง สืบสวนจนรู้ตัวผู้เกี่ยวข้องอยู่ใน ร้อยเอ็ดและ กทม. ผลการตรวจค้นพบทรัพย์สินมีค่า และสิ่งของผิดกฎหมายจำนวนมาก รวมถึงขยายผลตรวจยึดควายงาม ซึ่งมูลค่าสูงถึงหลักล้านบาท โดยคนร้ายนำมาใช้เพื่อฟอกเงิน เพื่อให้คนทั่วไปเห็นว่าเขารวยมาจากธุรกิจขายน้ำเชื้อควายงาม โดยเริ่มต้นจากการซื้อพ่อพันธุ์ จากโคที่ชนะเลิศการประกวด ราคาตัวละ 2.6 ล้าน โดยอ้างว่าจะนำมาผลิตน้ำเชื้อขายหลอดละ 500-1,000 บาท การรีดน้ำเชื้อแต่ละครั้ง ได้น้ำเชื้อหลายร้อยหลอด และภายใน 1 เดือน สามารถรีดน้ำเชื้อได้หลายครั้ง นำไปสู่การโฆษณาว่าขายน้ำเชื้อได้จำนวนมาก จนมีฐานะร่ำรวย
จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหายอมรับว่า กระทำความผิดจริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ เริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาบัญชีม้า , เปิดบัญชีม้า, กลุ่มคนทำเว็บพนัน และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ โดยแต่และกลุ่ม ได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินแตกต่างกัน
โดยกลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้าพร้อมใช้ ได้รับเงินค่าจ้าง6,500-15,000 บาท โดยจะเอาเงินไปให้ผู้เปิดบัญชี เป็นค่าตอบแทนตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท บางรายได้เป็นรายเดือน เดือนละ 500 บาท ถ้าหากเป็นบัญชีคนไทยจะได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า บัญชีของคนต่างด้าว
นอกจากนี้ยังมีลักษณะการเช่าบัญชีม้ารายเดือน เดือนละ 5,000-10,000 บาท หากบัญชีม้าที่กลุ่มนายหน้าจัดหามาเกิดมีการปิดบัญชี หรือไม่ส่งมอบเงินให้ตามที่ตกลง ก็จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปติดตาม ทำร้ายร่างกาย เตะ ต่อย บางครั้งมีการใช้ไม้เบสบอลทุบตีให้ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
ส่วนกลุ่มผู้ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จะได้เงินค่ากดเงินครั้งละ 1,000-50,000 บาท เป็นรายครั้ง หากถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า กลุ่มพนักงานที่ดูแลเว็บฯ จะได้รับค่าตอบแทนรายเดือน รวมกับโบนัสเป็นแรงจูงใจจากเจ้าของเว็บพนัน ซึ่งแล้วแต่ตกลงกัน
ขณะที่กลุ่มผู้รับผลประโยชน์จะนำเงินที่ได้จากเว็บพนัน โดยนำไปซื้อทรัพย์สินและเอาไปฟอกในธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้มีการตรวจยึดฟาร์มกระบือสวยงาม ระดับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ดีกรีแชมป์การประกวดกระบือ ราคาตัวละหลายล้านบาท พบเปิดมาแล้วหลายปี มีการเผยแพร่ออกสื่อแล้วหลายครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ ดังนี้
1.เงินสด พร้อมตู้เซฟนิรภัย รวมจำนวน 8,754,580 บาท
2.เครื่องนับธนบัตร รวมจำนวน 2 เครื่อง
3.สร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง รวมจำนวน 5 เส้น
4.ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ หนักประมาณ 65 บาท มูลค่าประมาณ 2,379,000 บาท
5.กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม จำนวน 20 รายการ
6.โฉนดที่ดิน (อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 34 ไร่ และ จ.มหาสารคาม 5 ไร่)
7.กระบือพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ชื่อ จ้าวเพชรสาเกต และมีตังค์ รวม 2 ตัว ราคา 5,600,000 บาท
8.กระบือสวยงาม และ โค พันธุ์บารห์มัน 22 ตัว
9.รถยนต์หรู 10 คัน
10.รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน
11.รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน
12.รถ ATV 2 คัน
13.อาวุธปืนหลายขนาดรวม 6 กระบอก
14.สมุดบัญชีธนาคาร ที่เป็นบัญชีม้ารวมจำนวน 928 เล่ม
15.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ATM 675 ใบ
16.โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต 596 เครื่อง
17.ซิมการ์ดพร้อมใช้ รวมจำนวน 441 ชุด
18.พาสปอร์ตคนต่างด้าว รวมจำนวน 76 ชุด
19.ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมจำนวน 13 เครื่อง
รวมทรัพย์สินที่ถูกตรวจยึด 1,913 รายการ มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาท