ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

นักท่องเที่ยวต่างชาติเหิม แย่งปืนทำร้ายตำรวจ ฉุนโดนเรียกขี่รถเร็ว

เช้านี้ที่หมอชิต - นักท่องเที่ยวต่างชาติเหิมเกริม ถูกตำรวจเรียกให้หยุดฐานขับรถเร็ว แต่กลับซิ่งหนี เมื่อตำรวจขับรถไล่ตามไปจนทัน กลับใช้กำลังทำร้ายแถมแย่งอาวุธปืนตำรวจ

เหตุการณ์ขณะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับตำรวจจราจร สภ.ฉลอง โดยมีนักท่องเที่ยวอีกคนยืนดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ ๆ จากคลิปจะได้ยินเสียงชาวบ้านที่พยายามห้ามปราม บอกให้นักท่องเที่ยวหยุดทำร้ายตำรวจ แต่ปรากฏว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวกลับแย่งปืนจากตำรวจมาส่งให้เพื่อนถือไว้ ก่อนจะใช้ท่อนแขนรัดคอของตำรวจคนดังกล่าวไว้ เหตุเกิดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ริมถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุตำรวจได้ควบคุมตัวชายชาวต่างชาติไว้ได้ทั้ง 2 คน คือ นายฮามิช อายุ 36 ปี และ นายออสการ์ อายุ 38 ปี ทั้ง 2 สัญชาตินิวซีแลนด์ ส่วนตำรวจที่ถูกทำร้ายคือ ด.ต.สมศักดิ์ หนูเอียด ผู้บังคับหมู่งานจราจร สภ.ฉลอง จังหวัดภูเก็ต ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ ด.ต.สมศักดิ์ หนูเอียด กำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบและอำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชน บริเวณถนนเจ้าฟ้าตะวันออก หน้า สภ.ฉลอง พบชายต่างชาติ 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา โดยใช้ความเร็วสูงในเขตชุมชน จึงเรียกให้หยุดรถ แต่ทั้ง 2 ไม่หยุด และได้เร่งเครื่องหลบหนี ด.ต.สมศักดิ์ จึงขี่รถจักรยานยนต์ติดตาม

เมื่อรถของทั้ง 2 คน จอดข้างทาง ชายชาวต่างชาติพยายามเสนอเงินให้ แต่ ด.ต.สมศักดิ์ ปฏิเสธ ผู้ก่อเหตุจึงไม่พอใจและโวยวายใส่ ด.ต.สมศักดิ์ จึงใช้มือถือถ่ายคลิปไว้ แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เข้ามาปัดโทรศัพท์และทำร้าย ด.ต.สมศักดิ์ มีการยื้อแย่งอาวุธปืนของตำรวจ จนทำให้ปืนลั่น 1 นัด แต่โชคดีกระสุนปืนไม่ถูกใคร ต่อมาตำรวจ สภ.ฉลอง มาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้

พ.ต.อ.เอกรัตน์ พลายด้วง ผู้กำกับการ สภ.ฉลอง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าเยี่ยมอาการและให้กำลังใจ ด.ต.สมศักดิ์ โดยแพทย์ได้อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ในฐานะผู้บังคับบัญชาจะดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ตามสิทธิให้ครบถ้วน

ส่วนผู้ก่อเหตุ ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบสารเสพติดหรือปริมาณแอลกอฮอล์ คาดว่าเป็นพฤติกรรมส่วนตัว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบกับขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ เพราะได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว

ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่, ร่วมทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่, ร่วมกันพยายามให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark