กระหน่ำแทงหนุ่มร่างพรุน 8 แผล เสียชีวิตคาบ้าน

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อเช้าวันที่ (16 มี.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อนรุ่นน้องพบศพของ นายสมพงศ์ ช่วยลุง หรือช่างดอน อายุ 40 ปี ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ฝีมือดี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนและถูกแทงด้วยของมีคมทั่วร่าง 8 แผล นอนเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน พื้นที่บ้านนาขา ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง ล่าสุดตำรวจต้องตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเพื่อหาปมเหตุสังหารโหด

เมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) พันตำรวจเอก สานิตย์ พลเพชร ผู้กำกับการ สภ.เมืองตรัง นำ ตร.ชุดสืบสวน และชุด EOD เก็บกู้ระเบิด ของตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีบรรดาญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตมาคอยดูสังเกตการณ์ แต่ยังคงไม่มีพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่ทางตำรวจยังเรียกสอบประจักษ์พยาน พยานแวดล้อม พยานวิทยาศาสตร์ และแกะรอยหาภาพกล้องวงจรปิด ขณะที่ร่างของผู้เสียชีวิตได้ถูกนำส่งไปผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อชี้ชัดอาวุธที่ใช้ในการลงมือก่อเหตุ หาวัตถุพยานเพื่อสาวถึงตัวผู้ก่อเหตุ 

ขณะที่ นางปรีดา ทับไชย หรือป้าดา อายุ 57 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายเคยมีภรรยาจำนวน 2 คน มีลูกกับภรรยาทั้ง 2 คน รวม 5 คน แต่ได้แยกกันอยู่ทั้งหมด โดยลูก ๆ ก็แวะเวียนมาหาผู้ตายอยู่เสมอ ซึ่งคืนก่อนที่จะพบว่าลูกชายกลายเป็นศพ ตนได้ฝันเห็นลูกชายมาหา แต่ไม่พูดอะไรเลย ซึ่งความเชื่อของชาวบ้าน หากคนตายหรือคนกำลังจะตายมาเข้าฝันมักจะไม่พูดอะไร

แม่ผู้ตาย เล่าต่อไปว่า ที่ผ่านมาลูกชายมีเรื่องอะไรมักจะไม่ค่อยเปิดเผย ปรับทุกข์ หรือบอกกล่าวกับตน ส่วนนิสัยลูกชายยอมรับว่าเป็นคนที่ชอบพูดด่าคนอื่น และชอบพูดโวยวายบนถนนหน้าบ้าน อาจจะทำให้คนอื่นไม่พอใจ

ส่วนอีกปมขัดแย้งก็เมื่อราวประมาณปี 2564 เคยถูกอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใช้อาวุธปืนเข้ามาหวังจะยิงลูกชายขณะกำลังเดินออกจากห้องน้ำในร้านซ่อมรถ แต่ครั้งนั้นโชคดีที่ลูกชายปัดปลายกระบอกปืนได้ทัน และมีการต่อสู้ฟัดเหวี่ยงยื้อแย่งปืนได้ และเป็นคดีความกันจนถึงตอนนี้ 

ด้าน นายสุพล ฟองโหย หรือ ปริง ควนดินแดง อายุ 37 ปี ที่เป็นเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งเป็นคนมาพบศพคนแรก และเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันที่ 15 มีนาคม ตนขับรถไปแวะซื้อเหล้าขาว 1 ขวด พร้อมน้ำแข็งที่ร้านขายของชำของ ตำรวจชื่อ "จ่าอี๊ด" เพื่อไปนั่งกินกับนายดอน ผู้ตายที่หน้าบ้าน 2 คน จากนั้นขับรถออกไปจากบ้านนายดอน เพื่อนำเงินค่าขายไม้ยางพาราไปให้กับคนที่รู้จัก และวกกลับมานั่งกินเหล้ากับนายดอนต่อ ซึ่งนายดอนต้มไข่มดแดงใส่ถุงให้ตนเอากลับบ้านด้วย ซึ่งนายดอนจิบเหล้าขาวแค่ 2 แก้วเล็ก ๆ และดื่มกันแค่ไม่ถึงครึ่งขวด โดยนั่งกินกันประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนตนจะกลับบ้าน

ซึ่งนายสุพล หรือ ปริง ควนดินแดง เล่าอีกว่า วันเกิดเหตุตนรู้สึกแปลก ๆ ที่สังเกตและเป็นลางสังหรณ์ในวันนั้นนายดอนพูดเพราะมาก แตกต่างกับวันก่อน ๆ ที่ชอบพูดด่าคนอื่น ชอบบ่น โวยวาย และหยาบคาย 

กระทั่งตอนเช้า (16 มี.ค.) เวลาประมาณ 08.00 น. นายสุพล ระบุว่า ตนมาหานายดอนที่บ้านเพื่อจะรับออกไปทำงานรับจ้างแบกท่อนไม้ยางพาราด้วยกันเหมือนปกติทุกวัน เรียกชื่ออยู่ 2-3 ครั้งแต่ผู้ตายไม่ขานรับ แถมขวดเหล้าที่กินเหลือยังวางบนแคร่หน้าบ้าน จึงเดินวนดูก็เห็นว่านายดอนนอนอยู่บนพื้นดินข้างบ้าน จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่และโทรหาพ่อของตัวเองแจ้งให้ทราบเรื่อง

ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ มุ่งประเด็นเรื่องความขัดแย้งกับคู่คดี เมื่อปี 2564 ที่นายดอนถูกบุกเข้าไปยิงถึงในร้านซ่อมรถ เรื่องยังอยู่ในชั้นศาล และสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเดินเท้าเข้ามาและรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตาย ก่อนอาศัยจังหวะลงมือก่อเหตุดังกล่าว มีความคืบหน้าจะรายงานต่อไป