เปิดปม จนท.ศาลฆ่าทนายดัง แค้นหยามเกียรติด่าพ่อ-แม่

เช้านี้ที่หมอชิต - เปิดปมเจ้าหน้าที่ศาลบุกรัวยิงทนายเสียชีวิตคาบ้าน เพราะแค้นถูกผู้เสียชีวิตหยามเกียรติลูกผู้หญิง ด่าบุพการี

คดีนางชัญญาพรรณ อายุ 56 ปี เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมชำนาญงาน ประจำศาลแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ ควงปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยิง นายกฤษณ์ อนุสินธิ์ หรือ ทนายป๋อง อายุ 64 ปี เสียชีวิตคาบ้านพัก ก่อนเดินเท้าถืออาวุธปืนไปมอบตัวกับตำรวจ สภ.กันทรารมย์ พร้อมบอกว่า ยิงคนตายมา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวาน พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ เบิกตัวผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวสังเกตสีหน้าผู้ต้องหาค่อนข้างเคร่งเครียด พยายามหลบหน้าสื่อตลอดเวลา

หลังสอบสวนผู้ต้องหาถูกนำตัวไปขึ้นรถคุมขังเพื่อส่งศาลฝากขังทันที เนื่องจากปฏิเสธการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะกลัวถูกรุมประชาทัณฑ์ ผู้สื่อข่าวพยายามถามแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมปริปากเลย ขณะเดียวกันภรรยาผู้เสียชีวิตที่เดินผ่านผู้สื่อข่าว ได้พูดลอย ๆ ขึ้นมาว่า พี่ขอร้องให้ความเป็นธรรมกับพี่ด้วย ก่อนเดินขึ้นรถไม่ยอมให้สัมภาษณ์

อย่างไรก็ตาม ผลสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า เครียดเรื่องทนายป๋องมานาน 2 สัปดาห์แล้ว วันเกิดเหตุ ทนายโทรมาหาและนัดให้ไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านพัก จึงขับรถเก๋งไปหา

เมื่อไปถึง ทนายพาเข้าไปคุยในห้องนอน ตนได้พูดทวงเงิน แต่ทนายกลับโมโห ต่อว่าตนด้วยถ้อยคำรุนแรง ดูถูกเหยียดหยามเกียรติลูกผู้หญิง เช่น เป็นผู้หญิงสำส่อน ทำตัวเหมือนผู้หญิงขายบริการ ใครได้เป็นเมียก็มีแต่อับอาย เป็นผู้หญิงร้อยผัว ลามปามด่าบุพการี ตนร้องกรี๊ดด้วยความโมโห เข้ายื้อยุดฉุดกระชาก

ทางทนายพูดขู่ "กูจะฆ่ามึง" ก่อนวิ่งไปหยิบมีดในครัว ด้วยความกลัวตนหยิบปืนในกระเป๋าออกมายิงทนายเพื่อป้องกันตัว จำไม่ได้ว่ายิงไปกี่ครั้ง จากนั้นเดินไปมอบตัวพร้อมปืน ซึ่งปืนที่ใช้ก่อเหตุพกติดตัวเป็นประจำ มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ด้านเพื่อนรุ่นน้องของผู้ต้องหา เล่าว่า รู้จักผู้ต้องหามานาน 10 ปี เป็นคนนิสัยดี ด้วยความสนิทสนมผู้ต้องหาจะเล่าระบายความในใจให้ฟังบ่อย ๆ โดยเฉพาะเรื่องของทนาย เคยเตือนให้ถอยออกมาหลายครั้งแล้ว เพราะไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คนเป็นอย่างไร รู้เพียงว่าทนายมักขอยืมเงินจากผู้ต้องหาแล้วไม่คืน ตัวเลขเกินหลักล้านบาท ผู้ต้องหาถึงขั้นหมดตัว มีรถเก๋ง รถตู้ ก็ขายหมด ล่าสุดได้ขายที่นาหลักล้านบาทก็ให้ผู้เสียชีวิตหมด 

ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และ พ.ร.บ.อาวุธปืน