ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ทนายบิ๊กโจ๊ก แฉ บิ๊กตำรวจ โยงรับส่วยเว็บฯ พนัน

เช้านี้ที่หมอชิต - ทนายความทีม บิ๊กโจ๊ก มาตามสัญญา แถลงแฉเละ ตำรวจตั้งแต่ระดับ พล.ต.ต. - ด.ต. เกือบ 30 นาย มีเส้นทางการเงินโยงคดีเว็บไซต์พนัน BNK Master แต่ไม่มีการออกหมายจับ ตั้งข้อสงสัยพนักงานสอบสวนพยายามปกป้องใคร เจ้านายตัวเองใช่หรือไม่

นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ พร้อม นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก ร่วมกันแถลงชี้แจง กรณีศาลอาญาออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปรับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน หลังพบความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดีเว็บไซต์พนัน BNK Master มีกำหนดนัดหมายที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ในวันที่ 21 มีนาคมนี้

นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า ประเด็นความเชื่อมโยงทางการเงินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับเว็บไซต์พนัน BNK Master จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน และบัญชีทั้งหมด 34 บัญชี รวมถึงสอบถามเจ้าตัว พร้อมเอกสารประกอบ ยืนยันว่า ไม่พบเส้นเงินใดมีความเชื่อมโยงมาถึงบิ๊กโจ๊กแน่นอน แต่พบว่ามีความพยายามแยกคดีเว็บไซต์พนันมินนี่ออกมา ทั้งที่คดีนี้เคยมีการแจ้งข้อกล่าวหาไว้แล้วในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และเรื่องอยู่ใน ป.ป.ช. จึงยืนยันอีกครั้งว่าอยู่นอกอำนาจของพนักงานสอบสวนไปแล้ว และการออกหมายเรียก บิ๊กโจ๊ก ในคดีนี้ เป็นการออกหมายเรียกโดยไม่ชอบ

ทางทนายยังได้ตั้งข้อสังเกตต่อคดีนี้ด้วยว่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีคดีเว็บฯ BNK Master รวมกว่า 400-600 ล้านบาท ที่เข้าข่ายความรับผิดชอบของ ป.ป.ช. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเคยมีการขอข้อมูลไปยังพนักงานสอบสวนหลายครั้ง แต่กลับไม่มีการส่งเรื่องไปให้ นอกจากนี้ น.ส.พิมพ์วิไล แอดมินเว็บฯ พนัน BNK Master ได้เคยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษไว้กับ สภ.คอหงส์ จังหวัดสงขลา ว่ามีการเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางทีมทนายได้ข้อมูลว่า มีการโอนเงินตรงเข้าบัญชีตำรวจยศตั้งแต่ พล.ต.ต. - ด.ต. เกือบ 30 ราย แต่มีการออกหมายจับเพียงบางรายเท่านั้น ทำให้เข้าใจว่ามีพฤติกรรมปกปิดข้อมูล เหมือนอินทรีเลือกเหยื่อหรือไม่ 

และอีกหนึ่งความเดือดถูกโยนมาจาก พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ อดีตผู้บังคับการ ศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถูกออกหมายจับคดีมินนี่ บอกว่า พอทราบว่ามีการแถลงในวันนี้ จึงขอมาชี้แจงด้วยเนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นส่งผลต่อตนมาก ทำให้ทั้งชีวิตที่ทำงานมาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
 
จากนั้น พล.ต.ต.นำเกียรติ ระบุว่า ตนเองเป็นเพียงผู้รับโอนเงินจากผู้บังคับบัญชาเพื่อให้ไปทำงานสืบสวนสอบสวน เลี้ยงดูลูกน้องในการคลี่คลายคดีต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นความเมตตาของผู้บังคับบัญชาที่ให้เงินมาทำงาน แต่เส้นทางการเงินมาจากไหน ตนเองไม่มีอำนาจสอบสวนตรงนั้น ในทางคดีก็ว่ากันไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับตน คือ มีการทำธุรกรรมระหว่าง น.ส.พิมพ์วิไล กับ พ.ต.ท.คริษฐ์ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก และในวันเดียวกันก็มีการโอนเงินจาก พ.ต.ท.คริษฐ์ เข้ามาที่ตนเพื่อใช้ทำงาน จึงถูกนำไปโยงกันและถูกออกหมายจับ ถามว่าถ้าต้องการปกปิดไม่ให้ตามรอยได้ ทำไมไม่ใช้การถอนเงินสดออกมาแจกจ่าย เพราะถ้าเป็นการโอนให้ตน หรือให้บิ๊กโจ๊กไปรักษาแม่ ไปทำบุญ มันตามรอยได้ อย่างไรก็ตาม ตามที่ทนายได้แถลงไป คำถามของตนก็คือ เส้นเงินจาก น.ส.พิมพ์วิไล แถวที่หนึ่ง พบว่ามีความเชื่อมโยงไปถึงบัญชี นายพล ต., ภรรยา ก., พี่สาว จ. และ พี่ชาย ช. ทำไมไม่ออกหมายจับ

นอกจากนี้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ยังตั้งข้อสันนิษฐานว่า สาเหตุที่ทำให้ตกเป็นผู้ต้องหา เพราะเป็นผู้ทำสำนวนคดี เป้รักผู้การ ในชลบุรี ที่มีการเรียกเงินเว็บฯ พนัน 100 ล้านบาท การสืบสวนครั้งนั้นมี พ.ต.อ.ตัวย่อ ด. เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และยังมีธุรกรรมการเงินโยงไปถึงตำรวจหญิง 2 นาย ที่มีความใกล้ชิดตำรวจระดับสูง รวมถึงการทำคดีกำนันนกและส่วยทางหลวงที่ตนกำลังทำงานอยู่ เชื่อว่าเป็นสาเหตุให้ถูกออกหมายจับในครั้งนี้

หลังการแถลงชี้แจงจบลง ทีมทนายบิ๊กโจ๊ก ดำเนินการต่อเนื่องทันที เวลาประมาณ 15.20 น. นายณัฐวิชช์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในการออกหมายเรียก บิ๊กโจ๊ก โดยมิชอบ ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้ นายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark