ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

นายกฯ เรียก บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก เข้าพบเคลียร์ใจ

เช้านี้ที่หมอชิต - ติดตามกันต่อสำหรับกรณีเด้งฟ้าผ่า 2 บิ๊กตำรวจ หลังเกิดปัญหาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งย้ายทั้ง 2 บิ๊ก ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี

ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงสาย เวลาประมาณ 11.00 น. มีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียก บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาคดีเว็บฯ พนันออนไลน์ที่เกิดขึ้น การเข้าพบนายกฯ ครั้งนี้ใช้เวลาไม่นาน คุยกันเพียงประมาณ 10 นาที เท่านั้น จากนั้น ทั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทั้ง 2 ท่าน บอกว่าจะไปแถลงข่าวร่วมกันที่นั่น

บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก แถลงจูบปาก ยุติสงครามสีกากี
เวลาประมาณ 11.50 น. ทั้งคู่ปรากฏตัวพร้อมกันเพื่อร่วมกันแถลงข่าว กรณีปมขัดแย้งเว็บฯ พนันออนไลน์ ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้คุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาตลอด ถ้าไม่เจอก็โทรศัพท์คุย ภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้ถูกนำไปมองว่าเป็นความขัดแย้งของตน 2 คน แต่เกิดจากสื่อโซเชียลมีเดียทั้งสิ้น ที่พยายามปั่นให้เกิดความขัดแย้งกัน หลังจากนี้หากเกิดภาพความขัดแย้งอีกให้เข้าใจว่าเกิดจากโซเชียลมีเดีย ไม่ได้เกิดจากตนเองทั้ง 2 คน ตนไม่เคยคิดเตะสกัดขา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น ยอมรับว่า เครียดกับภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่พยายามประคองสถานการณ์ ตนเหลือเวลาราชการอีกแค่ 194 วัน เป็นการนับถอยหลังที่อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด ฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสินใจยุติปัญหา คือ การโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพาไปพบนายกรัฐมนตรี เมื่อเช้าที่ผ่านมา ส่วนประเด็นที่ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจน์พงษ์ แถลงชื่อย่อ นายพล ต. ภรรยา พี่สาวและพี่ชาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์เมื่อวานนี้ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบในทางลับแล้ว ส่วนตัวไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นอีก

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้พาไปพบกับนายกฯ เนื่องจากมีแนวคิดที่จะยุติความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่รอง ผบ.ตร. ถึงชั้นประทวน ซึ่งทุกคนมีผู้บังคับบัญชาคนเดียว คือ ผบ.ตร. ส่วนเรื่องคดี BNK Master และการออกหมายเรียก ยังถือว่าตนไม่ได้รับหมาย เพราะช่วงที่มีการออกหมายเรียกอยู่เชียงใหม่ กระบวนการรับหมายจึงยังไม่เริ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทุกคดีที่เกี่ยวเนื่องกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะต้องส่งไป ป.ป.ช. ตามที่ ผบ.ตร. ได้พูดชัดเจนแล้ว การเปิดแถลงข่าววันนี้จึงถือเป็นสัญญาณแรกที่จะคืนความสุข ความสามัคคีในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ถือว่าเป็นการเซ็ตซีโรใหม่แล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า จะไม่มีการเอาคืนกับพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีตนเอง เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกนายกรัฐมนตรีตำหนิ และสังคมมองว่าตนก็ยังเป็นคนเดิม ส่วนตัวเหลืออายุราชการ 7 ปี วันนี้ทุกอย่างจึงต้องให้อภัย เพราะการเป็นผู้บังคับบัญชาต้องรู้จักเสียสละและให้อภัย พร้อมระบุว่า จะถอนฟ้องคดีตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

และไฮไลต์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากสื่อมวลชนที่เกาะติดกระแสความขัดแย้งของ 2 บิ๊กตำรวจ ก็คือ ภาพหลังการแถลงข่าวซึ่งมีทั้งการไหว้โค้ง ๆ สวย ๆ และการกอดกันกลมเกลียวชื่นมื่น โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เอื้อมมือแตะลักษณะประคองไหล่ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โอบเอว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ฟื้นตัวขึ้นใหม่

นายกฯ สั่งเด้งคู่! บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก เซ่นศึกสีกากี
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทั้ง 2 บิ๊กแถลงสามัคคี จูบปากกันไม่นาน ตกบ่ายมีคำสั่งนายกรัฐมนตรี สั่งให้ทั้ง 2 ท่าน ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ทำเนียบรัฐบาล เป็นเวลา 60 วัน พร้อมตั้งคณะกรรมการ 3 คน มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้แก่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ, นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เป็นกรรมการ และเลขานุการ และให้รายงานนายกรัฐมนตรีให้ทราบโดยตรงทุก 15 วัน ระหว่างนี้ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. มารักษาการ ผบ.ตร. แทน ซึ่งมีรายงานว่า เวลาประมาณ 13.00 น. นายกรัฐมนตรีได้เรียก พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

บิ๊กต่อ ยอมรับผลโดนเด้ง เผย นายกฯ บอกก่อนแล้ว
หลังมีคำสั่งออกมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์อีกรอบ กล่าวว่า ได้เห็นคำสั่งดังกล่าวแล้ว ยอมรับผลที่จะมีตั้งแต่วันนี้ ซึ่งขณะที่ไปเข้าพบนายกฯ ท่านบอกว่า เดี๋ยวมีคำสั่งนะ เนื้อหาที่เห็นคร่าว ๆ นั้นคือ เนื่องจากตนไม่สามารถบริหารความขัดแย้งได้ จึงต้องมอบหมายให้ผู้ไม่มีส่วนได้เสียมาเป็นรักษาการณ์ ผบ.ตร. แทน เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างยุติธรรม

บิ๊กโจ๊ก เปิดใจหลังโดนเด้ง ลั่น เรื่องนี้ไม่มีแพ้ชนะ
ขณะที่ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งมาก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาในการคุยกับนายกฯ ก็ไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ใด ๆ กำชับเพียงเรื่องการทำงาน เรื่องนี้ไม่มีแพ้ชนะ เมื่อแถลงข่าวช่วงเช้าไปแล้วก็จบ เมื่อถามว่าการไปทำงานที่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ผ่านมาล้มเหลวหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ไปทำงานรักษาความปลอดภัยให้นายกฯ และงานก็สำเร็จเรียบร้อยด้วยดี ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วยว่า ตามฉายาแมวเก้าชีวิตนั้น ตอนนี้เหลือกี่ชีวิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพียงหัวเราะและตอบว่า "ไม่หรอกครับ"

เปิดประวัติ บิ๊กต่าย รักษาการ ผบ.ตร.
ไปต่อกันที่อีกคนหนึ่ง มาเงียบ ๆ แต่มานะ ไม่กล่าวถึงไม่ได้ ไปทำความรู้จัก บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปัจจุบัน ท่านเป็นหัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อายุ 59 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดราชบุรี จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 25 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 41 เริ่มรับราชการตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองระยอง จังหวัดระยอง ผลงานเด่นด้านปราบปราม คือ การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เช่น แก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงออนไลน์ การปราบปรามยาเสพติด ส่วนผลงานเด่นด้านบริหาร เป็นผู้รับผิดชอบหลักสูตร กอส. ใหม่ หรือการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร เน้นการพัฒนาทักษะตำรวจยุคใหม่

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark