คอลัมน์หมายเลข 7 : ผลสอบ ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ผิดจริง ใช้อำนาจไม่ถูกต้อง

ข่าวภาคค่ำ - ผลสอบผู้อำนวยการโรงเรียนหวงเก้าอี้ออกแล้ว พบผิดจริงตามที่เป็นข่าว สั่งปรับทัศนคติเปลี่ยนพฤติกรรมภายใน 60 วัน หากยังไม่เปลี่ยนแปลงต้องโยกไปปฏิบัติหน้าที่อื่น ไปติดตามเรื่องนี้กับ คุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด ในคอลัมน์หมายเลข 7

ผู้อำนวยการหวงเก้าอี้ แขนขาอ่อนแรงผิดจริง คำยืนยันผลการสอบอย่างไม่เป็นทางการจาก เลขาธิการ กพฐ. ระบุผลเป็นตามที่เป็นข่าว แต่เนื่องด้วยพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนยังไม่ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง จึงให้โอกาสด้วยการปรับทัศคติ ให้แก้ไขทั้งเรื่องการบริหารงาน การใช้อำนาจ โดยเฉพาะคำพูด เพราะจากข้อมูลพบว่า ผอ.ไม่ได้มีปัญหาแค่กับครูที่เป็นข่าว แต่ยังมีปัญหากับนักการภารโรง นักเรียน หรือแม้แต่ผู้ปกครองนักเรียน

กำหนดระยะเวลา 60 วัน หากยังไม่ปรับปรุงต้องไปทำหน้าที่อื่น หากปรับได้ก็จะกลับให้ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.เช่นเดิม แต่ต้องไม่ใช่โรงเรียนเดิม ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จะเป็นผู้ประเมิน

ส่วนคุณครูที่ออกมาเปิดโปงการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้องจนเป็นกระแสข่าว พอใจผลที่ออกมา แต่ยังไม่กล้าให้ข้อมูลเรื่องนี้เพิ่มเติม จนกว่าผลสอบจะแล้วเสร็จ

อีกประเด็นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 ต้องสานต่อ คือการจัดซื้อจัดจ้างของ ผอ.รายนี้ แค่ครูนั่งเก้าอี้ ยังจะใช้งบซื้อใหม่ นี่ยังไม่นับรวมเรื่องอื่น ๆ ที่อำนาจของผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถอนุมัติงบประมาณได้ด้วยตนเอง จึงต้องสอบย้อนทั้งหมด ว่ามีการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่

คอลัมน์หมายเลข 7 ชวนคุณผู้ชมคำนวนตัวเลขคร่าว ๆ โรงเรียนในสังกัด กพฐ.มีกว่า 30,000 โรงเรียน ผู้อำนวยการ 30,000 คน หากมีเรื่องเก้าอี้อ่อนแรงเกิดขึ้นโรงเรียนละ 1 ครั้ง ประเทศชาติต้องเสียงบสูญเปล่าไปเท่าไหร่ 36 ล้านบาท ถือเป็นการเบิกใช้งบที่ไร้ค่า ไร้ประโยชน์ ไม่คุ้มค่ากับภาษีของประชาชน