ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ทนายตั้ม เปิดโปง 18 ธุรกิจส่วย แฉ 3 ตัวละครหลัก

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้จะเรียกว่าเกิดแผ่นดินไหว สั่นสะเทือนไปทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ว่าได้ เมื่อ "ทนายตั้ม" หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะแถลงพร้อมเปิดหลักฐาน อ้างว่า "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับส่วย 18 ชนิด รวมถึงส่วยจากเว็บพนัน BNK Master ที่มีเส้นเงินโยงใยไปถึงทั้งตัวบิ๊กต่อ พี่สาว พี่ชาย และภรรยา

ทนายตั้ม เปิดโปง 18 ธุรกิจส่วย แฉ 3 ตัวละครหลัก
มาตามนัด 11.00 น. ทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลง เริ่มต้นก็ชิงบอกก่อนเลยว่า ก่อนแถลงปรึกษาครอบครัวแล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ กระทบกระเทือนคนใหญ่คนโต ยืนยันแถลงม้วนเดียวจบ และแถลงการรับส่วยครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อให้สังคมเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

แฉขบวนการส่วยเว็บฯ พนันออนไลน์ โยง "ผบ.ตร."
เอกสารที่ทนายตั้มเตรียมมาประกอบการแฉ เป็นสไลด์ 35 แผ่น ซึ่งจะค่อย ๆ เปิดเผยไล่ที่มาที่ไป จากหน้าแรกไปจนถึงไฮไลต์หน้าสุดท้าย

โดยเริ่มจากการเปิด 3 ตัวละครหลักที่รับส่วย คนแรก ดาบยาว คอมมานโด ทำหน้าที่รวบรวมส่วยของทุกทีม เพื่อส่งต่อข้างบน

คนที่สอง รองฟาง เป็นคนสนิทของบิ๊กต่อ เป็นนายตำรวจรุ่น 61 มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้

ส่วนคนที่สามที่ ทนายตั้ม อ้างถึงก็คือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล พร้อมกันนั้นยังได้อ้างถึง 3 หน่วยรับส่วย ซึ่งมีทั้งที่ บิ๊กต่อ ดูเอง และส่งคนของตัวเองไปดู ได้แก่ กองบังคับการคอมมานโด, กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ ซึ่งมีผลประโยชน์มหาศาลจากเว็บพนัน ที่มีอยู่เป็นพันเป็นหมื่นเว็บ

ทนายตั้ม กล่าวว่า ส่วยที่ 3 หน่วยนี้รับมีถึง 18 ชนิด ตามกราฟิกที่ทำมาให้ดู รวมถึงเว็บพนันด้วย โดยมีการตั้งทีมเก็บส่วยครบทุกกองบัญชาการภาค รวม 5 ทีม ทีมที่รายได้ดีสุด คือ ทีมภาคตะวันออก มีหัวหน้าชุด หรือ "จ่าก๊อป" โดย จ่าก๊อป สามารถใช้บัญชีม้าที่เจ้าของบัญชีตายไปแล้วได้ด้วย

จากนั้น ทนายตั้ม ได้กล่าวถึงตัวละครสำคัญในการรับยอดส่วย คือ พ.ต.ท.รายหนึ่ง ชื่อเล่น "รองฟาง" ใช้ห้องทำงานที่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ เป็นที่รับส่งยอดส่วย ทุกวันที่ 25 ของเดือน โดย รองฟาง จะถือบัญชีม้าที่ชื่อ นายคชาชาญ ส่วนที่ตำรวจคอมมานโด ก็จะมีการส่งยอดส่วยกันที่ชั้น 6 คนที่ทำหน้าที่รวบรวมส่วยส่งให้รองฟาง คือ ดาบยาว คอมมานโด ถือบัญชีม้า 2 บัญชี คือบัญชีม้าที่ชื่อ นายณัฐพล กับนายมงคล ซึ่งทีมทนายความของบิ๊กโจ๊กเคยแถลงพูดถึง

ส่วนหลักฐานที่ ทนายตั้ม นำมาแถลงคือ แช็ตการพูดคุย หลังหัวหน้าชุดเก็บส่วยแต่ละทีม โอนส่งยอดไปรวมที่บัญชีม้าที่ดาบยาวถือไว้ เช่น สลิปจากก๊อปกองปราบ โอนเข้า 100,000 บาท เฉพาะแช็ตที่มีการส่งข้อมูลการโอนส่งส่วย ทนายตั้มนำมาเสนอถึง 15 รายการ  บางยอดมีการโอนสูงมากถึง 800,000 บาท

ต่อไปเป็นขั้นตอนการถอนเงินส่วย จะไปถอนเงินแถวเมืองทองธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยคอมมานโด เฉพาะวันที่ 26 พ.ย.66 มีการถอนเงิน 2,274,000 บาท

ต่อไปเป็นจุดสำคัญ นั่นก็คือเส้นทางการเงินที่ไปถึง "บิ๊กต่อ" เชื่อมโยงจากการจับเว็บพนัน BNK Master คดีเดียวกับที่พนักงานสอบสวนดำเนินคดีบิ๊กโจ๊ก และลูกน้องข้อหาฟอกเงิน คีย์สำคัญอยู่ที่ นางสาวพิมพ์วิไล เจ้าของเว็บฯ พนัน BNK Master ที่จะใช้บัญชีของตัวเอง และบัญชีชื่อ นางหัสราวดี โอนเงินที่เชื่อมโยงไปถึงตำรวจหลายนาย ผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรมหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงเครือญาติของบิ๊กต่อ

ทนายตั้ม อ้างว่ามีเส้นเงินที่ไปถึงเครือญาติของบิ๊กต่อ ถึง 2 เส้นเงินที่ผ่านบัญชีม้า เส้นแรก นางสาวพิมพ์วิไล โอนผ่านบัญชีม้าที่ชื่อ นายณัฐพงศ์ (ซึ่งดาบยาวเป็นคนถือ) ซึ่งมีการโอนต่อให้คนนามสกุลสุขวิมล โดยทนายตั้มอ้างว่าโอนให้พี่สาวบิ๊กต่อ 4 ครั้ง พี่ชาย 2 ครั้ง และภรรยา 2 ครั้ง

ส่วนอีกเส้นเงิน นางสาวพิมพ์วิไล ใช้บัญชีม้าตัวเองคือ นางหัสราวดี โอนไปเข้าบัญชีม้าชื่อ นายคชาชาญ (ซึ่งรองฟางถืออยู่) จากนั้นอ้างว่ามีการโอนให้พี่สาวบิ๊กต่อ และมีการโอนไปสร้างวิหารวัดนครอินทร์ ซึ่งทนายตั้มอ้างว่า เมื่อตรวจสอบแล้วการโอนไปวัดนครอินทร์ครั้งนั้น เป็นการโอนงานบุญกฐิน ที่มีบิ๊กต่อเป็นเจ้าภาพ

หลังจากเปิดข้อมูลทั้งหมด ได้โทรหา "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อ บิ๊กเต่า รับสาย มีการนัดหมายไปยื่นเอกสารข้อมูลที่แถลงให้ ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม เวลา 11.00 น.

สมาคมนักข่าวฯโต้ "ทนายตั้ม" หลังโดนพาดพิง
ภายหลังการแถลงของทนายตั้ม ซึ่งมีเนื้อหาส่วนหนึ่งพาดพิงนักข่าว และสมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ก็มีแถลงการณ์จากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกมาตอบโต้ทันที ระบุว่า สมาคมฯ ได้ตรวจสอบเบื้องต้น ในระบบการจดทะเบียนของสื่อมวลชน ไม่พบชื่อองค์กร (สมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย) ที่ นายษิทรา กล่าวอ้าง จึงขอเรียกร้องให้ระบุยืนยันให้ชัดว่าเป็นสมาคมใด เพราะถ้าแถลงด้วยข้อมูลคลุมเครือ จะสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เสียหาย พร้อมยืนยันว่าสมาคมฯ ไม่เคยได้รับการบริจาค หรือสนับสนุนเงินจากองค์กร หรือบุคคลที่มีการกล่าวอ้างในการแถลงข่าวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ทางทนายตั้ม ก็ได้โพสต์ข้อความตอบโต้แถลงการณ์ผ่านเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุว่า "สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ที่ออกมาโต้ตอบ ผมถามคำเดียว ว่าคุณได้ถาม "คนใน" คุณหรือยัง ว่าได้รับเงินใครไหม ผมใบ้ตัวย่อให้นะ ตำแหน่ง อุปนายก ชื่อ ว. เอาเลขบัญชีด้วยไหม ธนาคารกสิกรไทย 758xxxxxx"

นายกฯ สั่งมูฟออน ปม "บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่อ"
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเบรกความขัดแย้งของ 2 บิ๊กตำรวจ ด้วยการสั่งเด้งเข้าสำนักนายกฯ ทั้งคู่ ได้กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ครั้งที่ 2/2567 ว่า ได้ย้ำชัดเจนในที่ประชุม ให้ยุติการให้ข่าว เรื่องคดีทั้งสองท่าน ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ปราศจากการแทรกแซง ซึ่งทุกท่านก็เห็นด้วยว่าเราควรจะมูฟออนได้แล้ว

ส่วนกรณีที่ ทนายตั้ม ออกมาแฉ วันนี้ตนมาในฐานะประธาน ก.ตร. เรื่องนี้ผมไม่ยุ่งแล้ว เพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบความจริงแล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark