ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ญาติคาใจ หมอทำคลอดพลาด แม่เสียชีวิต ลูกเข้าไอซียู

เช้านี้ที่หมอชิต - ญาติร้องสื่อหมอโรงพยาบาลชื่อดัง ทำคลอดสาวอายุ 28 ปี สุดท้ายแม่เสียชีวิต ส่วนลูกหัวใจหยุดเต้น 5 นาที ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู

ที่บ้านโนนอุดม หมู่ 3 ตำบลกุดน้ำใส อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ญาตินำร่าง นางสาวสุมินตรา อายุ 28 ปี มาตั้งบำเพ็ญกุศล หลังจากคลอดลูกสาวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้วเสียชีวิต ส่วนลูกที่เพิ่งคลอด หยุดหายใจไป 5 นาที ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยหมอแจ้งว่า นางสาวสุมินตรา มีภาวะตกเลือด ต้องตัดมดลูก แต่เกิดภาวะแทรกซ้อน แล้วเสียชีวิต

พี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า น้องสาวตั้งครรภ์ได้ 40 สัปดาห์ ไปโรงพยาบาล เพื่อรอคลอดตามนัด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ช่วงที่มารอคลอด ก็ปกติดี แต่น้องเคยบอกว่าจะขอผ่าคลอด แต่หมอบอกว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ดี และไม่มีคิวว่าง ให้คลอดตามปกติ

ระหว่างนั้น หมอฉีดยากระตุ้นให้ช่องคลอดเปิด แต่เปิดแค่ 1 เซนติเมตร กระทั่งน้องสาวปวดท้องหนัก เจ้าหน้าที่พาเข้าไปในห้องคลอด ผ่านไป 1 ชั่วโมง น้องก็คลอดลูก เป็นลูกสาวน้ำหนัก 3.4 กิโลกรัม ก่อนแจ้งว่าเด็กหายใจผิดปกติ และระหว่างทำคลอด เด็กหยุดหายใจไป 5 นาที ต้องปั๊มหัวใจ และส่งไปห้องไอซียู

ส่วนแม่เด็ก หมอแจ้งว่าตกเลือกอย่างหนัก โดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องผ่าตัดมดลูกออก หลังจากนั้น อาการก็แย่ลง มีภาวะหัวใจโตแทรกซ้อน หัวใจเต้นเร็ว ไตวาย กระทั่งเช้าวันที่ 6 เมษายน น้องสาวก็เสียชีวิต ทางโรงพยาบาลแจ้งสาเหตุว่า มีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง เสียเลือดเยอะ เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้

สิ่งที่ครอบครัวคาใจ คือ น้องสาวร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ขอผ่าคลอด แต่หมอไม่ยอม ทั้งที่ฝากพิเศษ แต่สุดท้ายก็ต้องผ่า เพราะเด็กตัวใหญ่ ส่วนใบมรณบัตรเขียนว่า กล้ามเนื้อหัวใจบกพร่องขณะตั้งครรภ์

ส่วนค่าคลอด 200,000 บาท โรงพยาบาลแจ้งมาว่าไม่ต้องจ่าย จ่ายเฉพาะค่าห้องผ่าตัด 50,000 บาท หมอที่ทำคลอดให้เงินช่วยมา 5,000 บาท ส่วนอาการของหลานสาว ยังน่าห่วง หมอบอกให้ทำใจ เพราะเด็กอาจมีอาการหูหนวก-ตาบอด, เป็นผู้ป่วยติดเตียง และเสียชีวิตได้

ด้าน สามีของนางสาวสุมินตรา ผู้เสียชีวิต เตรียมเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำพอง เพื่อขอส่งศพภรรยาไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลน้ำพอง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป ส่วนทางโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ ได้เรียกประชุมตรวจสอบข้อเท็จและรายงานให้กระทรวงสาธารณสุข ทราบ และจะชี้แจงผ่านสื่อมวลชนอีกครั้ง หลังจากนี้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark