หัวจะปวด วัยรุ่นหลอกขายไอซ์ เอาผิดอย่างไรดี

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องที่ตำรวจไปจับกุมวัยรุ่นเมืองอุดรฯ โพสต์หลอกขายไอซ์ผ่านทางออนไลน์ แล้วส่งสารส้มให้ลูกค้าแทน หลายคนก็สงสัยว่าสรุปแบบนี้ผิดกฎหมายข้อไหนแน่ ยาเสพติดก็ไม่มี แล้วใครละคือผู้เสียหาย

สรุปข่าวนี้กันก่อน ตอนที่ไปจับกุม ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี ไปได้ตัว นายอุเทน อายุ 25 ปี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ, กล่องพัสดุ, อุปกรณ์การเสพยาเสพติด และสารส้มน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ที่บ้านพักหลังหนึ่งในอำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี หลังสืบทราบว่าได้โพสต์ขายยาบ้าและไอซ์ ผ่านทางออนไลน์

ตอนที่สอบสวนผู้ต้องหาก็ยอมรับว่า ได้โพสต์ข้อความขายยาเสพติดจริง ส่วนยาเสพติดที่จะขายจริง ๆ ไม่มี แค่เอาภาพจากโซเชียลมาโพสต์หลอกเท่านั้น ของที่ส่งให้ไปก็เป็นสารส้ม หรือไม่ได้ส่งอะไรให้ไปก็มี เงินที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายส่วนตัว และซื้อยาเสพติดจากเพื่อนมาเสพ

ทีนี้พอข่าวนี้ออกไป ก็มีคนตั้งข้อสงสัยว่า อ้าว ยาเสพติดก็ไม่มี แล้วจะดำเนินคดีข้อหาอะไร เอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้จริง ๆ เหรอ

เราสอบถามเรื่องนี้กับตำรวจอยู่หลายนาย เชื่อหรือไม่ แต่ละนายคิดหนักเหมือนกัน ว่าคดีแบบนี้จะเข้าข่ายความผิดข้อหาไหน เพราะถ้าเป็นความผิดเรื่องยาเสพติด แต่ไม่มีกลางจะเอาผิดก็ไม่น่าได้ ถ้าเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จริงอยู่ว่าอาจจะผิดเรื่องโกหก หลอกลวง แต่มันเกิดความเสียหายกับประชาชน หรือต่อสาธารณะอย่างไร หรือจะเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ก็มีปัญหาอีกว่าแล้วใครละเป็นผู้เสียหาย เพราะในทางนิตินัย ผู้เสียหายจะเป็นได้ก็ต้องไม่ใช่เกิดจากการกระทำผิดกฎหมายอีก หรือเข้าสู่บทสรุปสุดท้าย ไม่ผิดเลยซักข้อ ถ้าอย่างงั้นทำอย่างไร

ก็มีตำรวจนายหนึ่ง แสดงความเห็นส่วนตัวว่า คดีนี้ควรเริ่มต้นจากเรื่องยาเสพติด เพราะพฤติการณ์เป็นการขายยาเสพติด ส่วนของกลางต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบยืนยันก่อน ระหว่างนั้น ตำรวจก็ขยายผลดูความผิดอื่น ๆ ประกอบ เช่น เรื่องที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเสพยาเสพติด ก็อาจเอาผิดในข้อหานั้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงทางคดีว่ามีพยานหลักฐานอย่างไรด้วย