นาทีชีวิต รถบรรทุกซิ่ง ชนเด็กปั่นรถจักรยาน

เช้าข่าว 7 สี - ช่วงปิดเทอมแบบนี้ เด็ก ๆ มักจะไปเที่ยวเล่นนอกบ้านกลับกลุ่มเพื่อน ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เด็กชายอายุ 7 ขวบ พาน้องสาวอายุ 6 ขวบ ปั่นรถจักรยานไปซื้อขนม ระหว่างทางกลับบ้านถูกรถบรรทุกซิ่งชนบาดเจ็บสาหัส

เพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้น จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณถนนเลียบคันคลองนครหลวง ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถจักรยานยนต์คันหนึ่งปั่นมาตามทาง คนปั่นเป็นเด็กชายอายุ 7 ขวบ ส่วนที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยเป็นน้องสาวอายุ 6 ขวบ ทั้งคู่พากันมาซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อ

กระทั่งปั่นมาถึงทางแยก ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่รถบรรทุกคู่กรณีขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนรถจักรยานอย่างจัง เด็กหญิงตัวกระเด็นตกกลางถนน ก่อนจะเดินขากะเผลกไปหาพี่ชาย

พลเมืองเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 16.00 น. วันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เธอได้ยินเสียงรถชนดังสนั่น หันไปดูเห็นเด็ก 2 คน บาดเจ็บนอนอยู่กลางถนน จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ โดยเด็กชายมีอาการสาหัสมาก ต้องปั๊มหัวใจ

และนี่คือร่องรอยของอุบัติเหตุ จะเห็นว่าบนถนนยังปรากฏรอยครูดเป็นทางยาว และมีกองเลือดของผู้บาดเจ็บ โดยเด็กหญิงอายุ 6 ขวบ ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ส่วนเด็กชายอายุ 7 ขวบ ยังอาการน่าเป็นห่วงเนื่องจากปอดฉีกทั้ง 2 ข้าง มีเลือดคั่งในสมอง และอาเจียนเป็นระยะ 

นางสาวพัชรี วุฒิกร แม่ของเด็กทั้ง 2 คน เล่าว่า ลูกขอปั่นจักรยานไปซื้อขนมไม่ถึง 5 นาที โดยปกติจะซื้อร้านค้าแถวบ้านแต่วันเกิดเหตุร้านปิด ลูกชายจึงปั่นจักรยานพาน้องสาวไปที่ร้านสะดวกซื้อ ทันทีที่ทราบว่าลูกถูกรถชน เธอตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้ลูกชายพูดคุยได้บ้าง และรู้สึกผิดที่พาน้องสาวไปเจ็บตัว บอกน้องพี่ขอโทษ เห็นแบบนี้แล้วก็สงสารลูก ๆ ที่ต้องมาเจ็บตัว ยิ่งได้เห็นคลิปวินาทีเกิดอุบัติเหตุ ใจแม่นี้แทบสลาย

มาดูฝั่งคนขับรถบรรทุกกันบ้าง หลังเกิดอุบัติเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน เพราะมีอาการมึนเมาอย่างหนัก ตำรวจ สภ.วังน้อย คุมตัวชายอายุ 29 ปี คนขับรถบรรทุกไปโรงพัก ให้เป่าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ผลที่ได้คือ 142 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ผู้กำกับการ สภ.วังน้อย ระบุคนขับรถบรรทุกมีความผิดฐานเมาแล้วขับ และขับรถโดยประมาท

ส่วนเด็กชายอายุ 7 ขวบ ที่ปั่นรถจักรยาน ก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาประมาทร่วมเช่นกัน เพราะจุดเกิดเหตุเป็นทางร่วมทางแยก

ทั้งนี้แม่เด็ก บอกทิ้งท้ายคู่กรณียังไม่โทรศัพท์มาถามอาการ หรือเข้าเยี่ยมลูกชายที่โรงพยาบาลสักครั้ง