ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

พลังงานจังหวัดจ่อเอาผิดปั๊ม หลังเติมน้ำมันปนน้ำให้ลูกค้าจนเครื่องน็อค

พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี เร่งตรวจสอบเอาผิดปั๊มเติมน้ำมันปนน้ำให้ลูกค้าจนเครื่องน็อค

วันนี้ (30 เม.ย.67)    นางสมนึก สิทธิการณา พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ด้วยวันที่ 26 เมษายน 2567 เวลา 11.30 น. สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีพบน้ำปนในน้ำมันดีเซล B7 ทำให้รถยนต์ ยี่ห้อหนึ่งของผู้โพสต์เฟซบุ๊กชื่อ “Mix Suphakan” ผู้ร้องได้รับความเสียหาย โดยผู้ร้องแจ้งว่าเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 ตนได้นำรถยนต์ไปเติมน้ำมันดีเซล B7 ที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ม่วงเฒ่าบริการ ตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน  1,000 บาท

หลังจากเติมพบความขัดข้องทำให้เครื่องยนต์น็อค และระบบแจ้ง Water in Fuel Drain Filter จึงถามหาความรับผิดชอบจากเจ้าของปั๊มในวันเดียวกัน ซึ่งเจ้าของปั๊มยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย โดยให้ผู้ร้องนำรถไปประเมินความเสียหาย  และในวันต่อมาผู้ร้องแจ้งค่าเสียหาย จำนวน 120,000 บาท แต่เจ้าของปั๊มกลับไม่ยินยอมตามที่ผู้ร้องแจ้ง และให้ผู้ร้องไปเรียกร้องค่าเสียหายในชั้นศาล ผู้ร้องจึงดำเนินการแจ้งความกับพนักงานตำรวจในท้องที่ และสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับร้องเรียนไปยังสื่อมวลชน เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน นั้น

ในการนี้สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ทันทีในวันที่ 26 เมษายน 2567 (วันเดียวกับที่ผู้ร้องแจ้ง) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและจัดเก็บตัวอย่างน้ำมันเชื้อเพลิงส่งให้กองคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงวิเคราะห์คุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมาย จำนวน 1 ตัวอย่าง โดยสำนักงานพลังงานฯ จะดำเนินการจัดส่งตัวอย่างให้ห้อง Lab ศรีราชา ในวันที่ 29 เมษายน 2567 พร้อมนี้ได้ทำการตรวจสอบน้ำในถังเก็บน้ำมันดีเซลของปั๊มเบื้องต้นด้วยน้ำยาตรวจสอบน้ำป้ายที่ปลายไม้วัดระดับน้ำมันของปั๊ม โดยหากพบน้ำ น้ำยาที่ป้ายไว้จะเปลี่ยนสี แต่จากการตรวจสอบไม่พบการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ได้ประสาน ผอ.กองคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงทราบเบื้องต้นแล้ว

ต่อมาวันที่ 29 เม.ย.มีการายงานข่าว พร้อมกับเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่ามีน้ำปนออกมาตามหัวจ่ายน้ำมัน จึงได้ส่งให้ ผอ.กองคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงพิจารณา  ต่อมาได้รับคำแนะนำจากกองนิติกรของกรมธุรกิจพลังงาน ว่า คลิปวิดีโอดังกล่าว สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามมาตรา 25 วรรคสอง ภายใต้ พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิงได้แล้ว แต่ขอให้ สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี (สพจ.กจ.)ลงพื้นที่เพื่อให้ได้รับคำยืนยันจากปั๊มน้ำมันว่าเป็นคลิปที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุและในวันนั้นพบน้ำปนออกมาจริง พร้อมให้ตรวจสอบให้ได้ว่าวันนั้นมีปริมาณคงเหลือเท่าใด เพื่อนำมาพิจารณาต่อว่ามีความผิดตามมาตรา 50 ด้วยหรือไม่ หากพบว่าเกิน 200 ลิตร จะต้องมีความผิดฐานปลอมปนน้ำมันด้วย ซึ่งจะมีโทษตามมาตรา 49 คือ ปรับ 3 แสนบาท หรือจำคุก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะต้องส่งฟ้องดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป แต่หากว่ามีไม่เกิน 200 ลิตร พลังงานจังหวัดสามารถใช้อำนาจในการเปรียบเทียบปรับได้ โดยทางสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี (สพจ.กจ.) จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ลงไปร่วมตรวจสอบพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้างต้นสืบเนื่องจาก เจ้าของเฟสบุ๊กชื่อ “Mix Suphakan” ผู้ร้องที่ได้รับความเสียหาย ได้โพสต์เฟสบุ๊ก เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2567 ระบุว่า ภัยเงียบใกล้ตัวเติมน้ำมันได้ได้น้ำเปล่า ปั๊มปัดความรับผิดชอบ เขาบอกคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา จะแจ้งความจะร้องไหนก็ไปร้อง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตอนนี้เครียดมากกับค่าซ้อมรถ หนูควรทำยังไงดีคะพี่ๆ เรื่องมันยามากๆ เลยค่ะกับพฤติกรรมกลับไปกลับมาของเจ้าของปั๊ม หนูก็คนทำงานมีพ่อแม่ต้องดูแล ทำไมเขาไม่เห็นใจหรือช่วยเหลืออะไรเราบ้าง ฟ้องร้องแจ้งความไปเรื่องก็นาน แล้วค่าใช้จ่ายส่วนต่างหนูจะหามาจากไหน ไหนจะค่าเช่ารถต่อวัน ไหนจะค่าผ่อนรถอีก มืดแปดด้านเลยค่ะ #ปั๊มแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี

ในวันต่อมาได้โพสต์อีกครั้งว่า จากเหตุการณ์วันที่ 22 เมษายน 2567 จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากทางเจ้าของปั้มคู่กรณีเลย เรื่องผ่านมาจะครบ 1 อาทิตย์แล้ว ยังเงียบหาย ไม่มีทีท่าทีที่จะพยายามจะไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายทั้งหมดที่รถของเราได้ไปเติมน้ำมันกับทางปั้มคู่กรณีแล้วปั้มได้เติมน้ำที่ไม่ใช่น้ำมันใส่รถเราจนรถเราเกิดความเสียหายและไม่สามารถใช้งานได้ ราคาการประเมินรถค่าซ่อมความเสียหาย 122,525.70 บาทและไม่มีท่าทีว่าจะเซ็นยินยอมกับทางประกัน บอกว่าเราเรียกค่าเสียหายเกินความจริง 

ซึ่งค่าเสียหายนี้เป็นการประเมินจากทางศูนย์จริงๆ หากยืดเยื้อไปทางศูนย์ฟอร์ดได้แจ้งมา รถของเราจะมีการเสียหายเพิ่มเติม จากการที่มีน้ำอยู่ในตัวเครื่องรถ  เสื้อลูกสูบ วาล์ว แหวนและชิ้นส่วนภายในที่เป็นเหล็ก จะเกิดการเป็นสนิม หากไม่รีบดำเนินการ อยากให้เจ้าของปั้มรีบออกมารับมาไกล่เกลี่ยรับผิดชอบในส่วนเซ็นยินยอม ค่าเสียหายในการซ่อม และเราต้องเสียค่าเช่ารถมาใช้ในการทำงานในแต่ละวัน อยากให้ทางปั้มชดเชยในส่วนที่เราต้องเสียไปโดยที่ทางเราไม่ใช่คนผิด เพราะค่าเช่ารถไปใช่งานเราต้องเช่าวันละพันกว่าบาท และทุกวันจนกว่ารถของเราจะมีการซ่อม ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังไม่สามารถซ่อมได้ เพราะทางคู่กรณีไม่มาไกล่เกลี่ย บ่ายเบี่ยง ที่จะคุยและที่จะเซ็นใบเครมประกันอีกครั้ง รถเราก็ไม่สามารถเอาน้ำออกจากตัวรถได้ เพราะอยากเก็บไว้เป็นหลักฐานเช่นกัน หากยังไม่รีบมาเจรจาไกล่เกลี่ย ทางเราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จะเอากระเช้ามาให้หรือจะชดใช้ในเวลานั้นเราจะไม่ยอมเด็ดขาด

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark