สาวไทยถูกฆาตกรรมที่ไต้หวัน แม่-ป้าเชื่อถูกนายจ้างลวงฆ่า

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีตำรวจไต้หวัน รายงานว่า นางสาวสุดธิดา แสนแสง อายุ 32 ปี ชาวอำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี ถูกทำร้ายเสียชีวิตบนภูเขา ประเทศไต้หวัน เมื่อ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ล่าสุด แม่และป้าของผู้เสียชีวิตเผยเบาะแส เชื่อว่าลูกสาวถูกนายจ้างลวงไปสังหารทิ้ง

กรณีตำรวจไต้หวันพบร่าง นางสาวสุดธิดา แสนแสง อายุ 32 ปี เสียชีวิตบนภูเขาเมืองจีหลง ประเทศไต้หวัน เมื่อ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยควบคุมตัวหญิงไทย "แซ่หลิน" ได้ ทั้งเผยข้อมูลว่า ผู้ตายถูกแทงหลายครั้ง ก่อนลากไปทิ้งที่เหวเพื่ออำพรางคดี

ล่าสุด เมื่อเย็นวานนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 138 หมู่ 7 บ้านกุดนาค้อ ตำบลตาดทอง อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี บ้านเกิดของนางสาวสุดธิดา เพื่อคุยกับแม่และป้าถึงเบาะแสการเสียชีวิตของนางสาวสุดธิดา

โดยนางดวงพร ช่างเหล็ก ผู้มีศักดิ์เป็นป้า เล่าว่า ตนเป็นคนเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ผู้ตายทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ ผู้ตายแยกทางกับสามี มีลูก 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ อายุ 14 ปี และ 4 ขวบ เมื่อเดือนเมษายน 2566 ผู้ตายเดินทางไปทำงานร้านนวดแผนโบราณที่ไต้หวัน เพราะต้องการหาเงินเลี้ยงลูก และอยากทำบ้านให้ลูก โดยขอวีซ่าไป 3 เดือน พอวีซ่าหมดจะกลับบ้าน แต่ไม่อยากกลับเพราะได้เงินดี จึงทำงานต่อ ผู้ตายส่งเงินกลับมาเลี้ยงลูกเดือนละ 4,000-7,000 บาท ผู้ตายจะโทรมาหาลูกประจำ เพราะห่วงลูก

ล่าสุดทราบว่าผู้ตายได้ย้ายงานใหม่ ไปสมัครทำงานแม่บ้านได้ 3 วัน ผู้ตายโทรกลับมาเล่าให้ฟังว่า นายจ้างใช้งานหนัก ไม่ยอมให้พักผ่อน โดยนายจ้างเป็นชาวไต้หวัน แต่มีภรรยาเป็นชาวไทย จังหวัดลำปาง ใช้งานหนักมาก แต่ผู้ตายอดทน อยากได้เงินเก็บสักก้อนมาทำบ้านใหม่ โดยสะสมทองไว้ 4-5 บาท

คืนเกิดเหตุ ผู้ตายโทรมาเล่าว่า นายจ้างผู้หญิงใช้ซักกางเกงใน ด้วยความโมโหประกอบกับไม่ยอมให้กินข้าว ผู้ตายเลยเตะถังน้ำใส่นายจ้าง

และช่วง 19.00 น. คืนเดียวกัน ผู้ตายเล่าว่านายจ้างชวนขึ้นไปเก็บผักบนภูเขา และเดินทางไป 20.00 น. พอตอนเช้า แฟนหนุ่มชาวนครพนม ที่พบรักกันที่ไต้หวัน โทรมาบอกว่าลูกสาวถูกฆ่าตายบนภูเขา และติดต่อกับผู้ตายตลอด ทำให้รู้พิกัดและเป็นผู้แจ้งตำรวจ

ป้าบอกว่า ก่อนหน้านี้มีลางสังหรณ์ หนังตาข้างขวากระตุก 2-3 วัน พอเกิดเหตุกับหลานรัก รู้สึกเสียใจที่สุด เพราะเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เล็ก ตอนนี้สงสารหลานมาก ตนเชื่อว่านายจ้างเป็นคนฆ่าแน่นอน

ส่วนนางผ่องอำไพ โคตรมณี แม่ผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูก 2 คน นางสาวสุดธิดา เป็นลูกคนสุดท้อง ตนไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ พี่สาวจึงเป็นคนเลี้ยงผู้ตาย ก่อนลูกจะเสียชีวิต ก็ได้โทรคุยกับลูกตอนกลางคืน พอตื่นเช้ากำลังจะไปทำงาน เพื่อนลูกโทรมาบอกว่าลูกฆ่าตัวตาย ตนก็เถียงไปว่าจะฆ่าตัวตายทำไม เพราะผู้ตายห่วงลูกมาก ตอนนี้แม่บอกว่ารู้สึกเสียใจมาก ใจสลาย สงสารลูกสาว ก่อนลูกจะเสียชีวิต ตนมีลางสังหรณ์สุนัขหอนทั้งคืน สุนัขหอนก็คิดว่าเห็นวิญญาณ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นวิญญาณลูก

ทั้งแม่และป้าอยากได้ร่างนางสาวสุดธิดากลับบ้าน มาจัดงานศพ ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียดความคืบหน้า ยังไม่มีหน่วยงานใดประสานมา จึงอยากฝากหน่วยงานรับผิดชอบ ช่วยดำเนินการให้ด้วย เพราะครอบครัวมีฐานะยากจนมาก