ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

สุดเศร้า ลูกชายสาวไทยถูกฆ่าในไต้หวัน ถามหาแม่ทำไมไม่คุยผ่านกล้องวงจรปิด


ญาติเผย สาวไทยถูกฆ่าในป่าไต้หวัน ตายตาไม่หลับ อยากบอกไม่ต้องห่วง จะช่วยกันเลี้ยงหลาน ด้านแม่เตรียมเดินทางไปฌาปนกิจศพลูก นำอัฐิกลับไทย

จากกรณี น.ส.สุดธิดา หรือแวว อายุ 32 ปี สาว จ.อุดรธานี ที่เดินทางไปทำงานที่ไต้หวันแบบหลบหนีเข้าเมือง 1 ปี และถูกทำร้ายเสียชีวิตบนภูเขา ในพื้นที่เมืองจีหลง ไต้หวัน โดยก่อนเสียชีวิตได้วิดีโอคอลหาแม่และป้าว่าโดนนายจ้างใช้งานหนัก ไม่ได้กินข้าว โมโหจนเตะถังน้ำใส่

จากนนั้นนายจ้างได้ชวนไปเก็บผักบนภูเขาในเวลากลางคืนวันที่ 10 พ.ค. จึงได้บอกแฟนว่ากลัว พร้อมส่งพิกัดให้แฟนหนุ่มว่าอยู่ตรงจุดไหน กระทั่งขาดการติดต่อ ต่อมาแฟนหนุ่มได้แจ้งตำรวจให้ออกค้นหา จนไปพบศพในเช้าวันที่ 11 พ.ค. ซึ่งแม่และญาติต่างรู้สึกเสียใจ และเรียกร้องให้จับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แม่-ป้าสาวไทยถูกฆาตกรรมที่ไต้หวัน เชื่อถูกนายจ้างลวงฆ่า

ความคืบหน้าวันนี้ (13 พ.ค.67) เวลา 11.30 น.  ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางดวงพร ช่างเหล็ก อายุ 59 ปี ส.อบต.ตาดทอง และป้าผู้ตายทราบว่า ทางสถานกงศุลไทย โทรมาแจ้งว่า ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้แล้วเป็นนายจ้าง ตอนนี้ควบคุมตัวอยู่สถานีตำรวจ ซึ่งไม่อยากให้ได้รับการประกันตัว เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดยเช้าวันนี้นางผ่องอำไพ แม่ผู้ตาย ได้เดินทางไปทำหนังสือเดินทาง เพื่อที่จะเดินทางไปทำพิธีฌาปนกิจศพลูกที่ไต้หวัน ซึ่งความรู้สึกจริง ๆ อยากได้ร่างกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านมากกว่า แต่เมื่อเป็นไม่ได้ ก็ต้องส่งแม่ผู้ตายไปทำพิธีฌาปนกิจ และนำอัฐิกลับมาบ้าน

นางดวงพร เล่าต่อว่า น.ส.สุดธิดา เดินทางไปทำงานนวดแผนโบราณที่ไต้หวันตามคำชักชวนของพี่สาว และจะส่งเงินมาเลี้ยงดูลูก มีการซื้อทองเก็บสะสมไว้ 5 บาท จะนำกลับมาขายที่เมืองไทย หลังทำงานนวดได้ 1 ปี ผู้ตายก็เปลี่ยนงานไปเป็นแม่บ้าน 3 วัน ซึ่งนายจ้างได้ค้นกระเป๋าของผู้ตาย คงจะพบทอง 5 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน ที่ซื้อไว้ฝากลูก

เชื่อว่านายจ้างลวงไปฆ่าชิงทรัพย์ เพราะก่อนเสียชีวิต ผู้ตายโทรมาบอกป้าว่านายจ้างชวนไปกินผักบนภูเขา ซึ่งตนก็ได้บ่นว่าจะขึ้นไปเก็บผักทำไมตอนกลางคืน ผู้ตายก็ได้ติดต่อกับแฟนที่เดินทางไปทำงานไต้หวันได้ 4 ปี ซึ่งแฟนหนุ่มก็เสียใจมาก ตอนนี้แฟนเป็นพยานคนเดียวในคดีนี้ อยู่ในความดูแลของตำรวจ และอยากปิดคดีนี้ให้ได้ จึงไม่อยากเปิดเผยตัวเอง เพราะเกรงอันตราย

สำหรับน.ส.สุดธิดา หลานสาว เป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกชายอายุ 4 ขวบ ของ น.ส.สุดธิดา ก็ถามหาแม่ทุกวันถามว่าทำไมแม่ไม่เรียกหาผ่านกล้องวงจรปิด ป้าของผู้ตาย บอกอีกว่า แฟนหนุ่มเล่าว่า เข้าไปอุ้ม น.ส.สุดธิดาออกมา ตายตาไม่หลับ คงจะทรมานมาก รู้สึกเสียใจมากที่เสียหลานสาวไป อยากจะบอกผู้ตายว่า “ไม่ต้องห่วง จะดูแลและช่วยกันเลี้ยงหลาน"

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark