นักกิจกรรมรวมตัวไว้อาลัย บุ้ง หน้าศาลอาญาฯ

เช้านี้ที่หมอชิต - เพื่อนมิตร นักกิจกรรม และประชาชนจำนวนมาก นัดรวมตัวหน้าศาลอาญารัชดา หลัง "บุ้ง เนติพร" จากกลุ่มทะลุวัง เสียชีวิต จากการอดอาหารยาวนานถึง 110 วัน เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัว หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งถอนประกันในคดี มาตรา 112 กรณีทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ

นักกิจกรรมรวมตัวไว้อาลัย บุ้ง หน้าศาลอาญาฯ
นี่คือบรรยากาศที่หน้าศาลอาญา กรุงเทพใต้ ถนนรัชดา ซึ่งเพื่อน ๆ และนักกิจกรรมอิสระ ตลอดจนประชาชน ได้ไปรวมตัวกันตั้งแต่เวลาประมาณ 18.20 น. เพื่อยืนไว้อาลัยให้กับ บุ้ง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที ซึ่งบางคนได้ถือภาพบุ้ง พร้อมชู 3 นิ้ว นอกจากนี้ ยังมีการจุดเทียนไว้อาลัยให้กับ บุ้ง เนติพร

นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง เป็นผู้ต้องหาคดีทางการเมืองในคดีทำโพลขบวนเสด็จ ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม ต่อมา ได้ประกาศอดอาหารในเรือนจำประท้วง เพื่อยืนยันในสิทธิการประกันตัว โดยมี 2 ข้อเรียกร้องเดิม คือ ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และจะต้องไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก ต่อมาได้เพิ่มอีก 1 ข้อ คือ ประเทศไทยไม่สมควรเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ทั้งนี้ หลังจากอดอาหารเข้าสู่วันที่ 110 เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้โทรศัพท์แจ้งครอบครัวว่า บุ้ง มีอาการไม่รู้สึกตัว ล้มฟุบหัวใจหยุดเต้น ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แพทย์ได้ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผล และเสียชีวิตเมื่อเวลา 11.22 น. ซึ่งหลังเพื่อน ๆ ทราบข่าวจึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสร้อย พร้อมระบุว่า อยากฝากให้สังคมช่วยกันสานต่อข้อเรียกร้องของบุ้ง เพราะไม่อยากให้การเสียชีวิตครั้งนี้ต้องสูญเปล่า

ส่งร่าง บุ้ง ทะลุวัง ชันสูตร หาสาเหตุเสียชีวิต
เบื้องต้น ทางกรมราชทัณฑ์ แจ้งว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใส จึงเห็นควรให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในอีกทางหนึ่ง

ราชทัณฑ์แจง บุ้ง กินข้าวปกติ แต่ไม่กินเกลือแร่-วิตามิน
นอกจากนี้ ในหนังสือจาก กรมราชทัณฑ์ ยังได้ชี้แจงถึงอาการของ บุ้ง ก่อนหน้านี้ว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้รายงานว่า หลังจากที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้รับตัว นางสาวบุ้ง จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 (ก่อนหน้านี้ บุ้ง อดอาหารจนมีอาการทรุดมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงส่งไปรักษาตัวภายนอก เมื่อเห็นว่าอาการดีขึ้นจึงถูกส่งตัวกลับมาโรงพยาบาลราชทัณฑ์) ทางโรงพยาบาลระบุว่า บุ้ง รับประทานอาหารและน้ำปกติ แพทย์และพยาบาลได้ทำการรักษาดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง แต่ยังมีอาการขาอ่อนแรงและบวมเล็กน้อย ผลเลือดมีภาวะโลหิตจางเล็กน้อย เกลือแร่ต่ำ โดย บุ้ง ปฏิเสธการรับประทานเกลือแร่และวิตามินบำรุงเลือด จนเกิดอาการดังกล่าว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ขณะที่ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ระยะหลังที่มาเยี่ยม บุ้ง มีอาการบวม ปวดท้อง อ่อนเพลีย หมอวิเคราะห์ว่าเป็นอาการของคนอดอาหารที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย หลังบุ้งกลับมากินอาหารตามที่ครอบครัวขอร้อง แต่รับประทานไม่ได้เพราะอดมานาน 30-40 วัน จึงให้เป็นสารโพแทสเซียมและแคลเซียมหรือน้ำ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ตนส่งหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้นำตัวบุ้งออกมารักษาที่โรงพยาบาลข้างนอก แต่ทางกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอในการดูแล ดังนั้น เมื่อมีการเสียชีวิต กรมราชทัณฑ์ต้องตอบคำถามว่า ทำไมถึงตาย และบุ้งได้รับการดูแลด้วยมาตรฐานเดียวกับผู้ต้องขังผู้หลักผู้ใหญ่บางคนหรือไม่

ทวี เสียใจ บุ้ง เสียชีวิต จ่อชันสูตรศพรู้ผลใน 7 วัน
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์จากที่ประชุม ครม.สัญจร จังหวัดเพชรบุรี ว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐบาลทุกคน ขอแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิต ได้รายงานให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทราบแล้ว ท่านย้ำว่า ต้องทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ส่วนอาการของ นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน นักกิจกรรมที่อยู่ในเรือนจำและกำลังอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวจากข้อกล่าวหาขวางขบวนเสด็จ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดี๋ยวจะเข้าไปเยี่ยมด้วยตนเอง เมื่อถามอีกว่า จะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้อำนวยการและหมอ ท่านพูดว่าในกรณีของ น.ส.เนติพร ได้เข้าออกระหว่างกรมราชทัณฑ์กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ซึ่งได้ทำตามวิชาชีพแล้ว เมื่อถามต่อว่า นอกจากญาติแล้ว หากทนายความของบุ้งอยากจะเข้าร่วมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จริงด้วย ได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า ยินดี

ก้าวไกล ร่วมอาลัย บุ้ง จี้นิรโทษผู้ต้องหาคดีการเมือง
นอกจากนี้ มีความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล โดยได้แสดงจุดยืนต่อกรณีนี้ผ่านหน้าเพจของพรรค ระบุว่า "พรรคก้าวไกลขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของคุณเนติพร เสน่ห์สังคม (บุ้ง) นักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย กับประเด็นและวิธีการที่คุณบุ้งแสดงออกในช่วงที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลขอยืนยันหลักการว่าในสังคมประชาธิปไตย สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนต้องได้รับการรับรอง ไม่ควรมีใครต้องติดคุกเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง ไม่ควรมีใครถูกปฏิเสธสิทธิในการได้รับประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง เพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง และไม่ควรมีใครถูกผลักให้ต้องต่อสู้ด้วยวิธีการที่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อชีวิต เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยเพื่อหาทางออกต่อความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตและที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคืนสิทธิประกันตัวแก่ผู้ต้องหาหรือจำเลยคดีการเมืองที่อยู่ระหว่างต่อสู้คดี การเร่งพิจารณากระบวนการนิรโทษกรรมคดีที่มีมูลเหตุทางการเมือง และฟื้นความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมสำหรับประชาชนทุกคน #คืนความเป็นธรรมให้ประชาชน #บุ้งทะลุวัง" 

ขณะที่ สส.ของพรรคหลายคน รวมถึง นางสาวพรรณิการ์ วาณิช ก็ได้โพสต์แสดงความรู้สึกต่อเรื่องนี้เช่นกัน ส่วนทางเพจพรรคเพื่อไทย ไม่มีความเห็นหรือความเคลื่อนไหวใด ๆ ในเรื่องนี้ โพสต์ล่าสุดเป็นเรื่องความคืบหน้าของแนวทางการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาท ทั่วประเทศภายในเดือนตุลาคมนี้