สงสาร! กระบะใจร้าย เอาน้องหมามาทิ้ง แล้วขับหนีไปไม่ใยดี

หนูผิดอะไร? กระบะใจร้าย เอาน้องหมาขึ้นหลังกระบะมาปล่อยทิ้งในซอยใจกลางชุมชน ต.สันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่ แม้จะวิ่งไล่ตาม แต่เจ้าของก็ขับจากไปไม่ใยดี เจ้าหน้าที่นำมาดูแลแต่ก็ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ เอาแต่เฝ้ารอคอยเจ้าของ

เมื่อเวลาประมาณ 07.48 น. วานนี้ (17 พ.ค. 67) นายภาวิต บุญชละ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบน้องหมาสายพันธุ์เพศผู้พันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ สีน้ำตาล อายุประมาณ 4-5 ปี ถูกเจ้าของที่นำน้องหมาใส่ระกระบะแล้วนำมาปล่อยทิ้งไว้กลางชุมชน ก่อนที่จะขับหลบหนีไป แต่ภาพสะเทือนใจที่ชาวบ้านพบคือนอกจากจะนำมาปล่อยทิ้งโดยไม่สนใจใยดีแล้ว ยังพบว่าน้องหาพยายามวิ่งตามรถเจ้าของไปหวังที่จะให้จอดรับ แต่คนขับเร่งความเร็วหนีออกไปโดยไม่ใส่ใจ

โดยหลังจากที่เข้าแจ้งกับทางเทศบาลตำลสันผีเสื้อแล้ว นายภาวิต บุญชละ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามจากภาพของกล้องวงจรปิดของเทศบาลฯ และหาหลักฐานจากกล้องหน้ารถจนได้ภาพ ซึ่งคลิปแรกเป็นคลิปจากกล้องหน้ารถที่สวนทางกับรถกระบะหมายเลขทะเบียน ฒรxxx กทม. ยังพบว่าน้องหมานั่งอยู่ท้ายกระบะโผล่หน้าออกมาทางด้ายซ้ายฝั่งคนขับ รถคันดังกล่าวขับเข้ามาในซอยถนนสันผีเสื้อ บริเวณที่รกร้างด้านหน้าของเทศบาลสันผีเสื้อ และเลี้ยวเข้าไปในซอยประมาณ 100 เมตร และหลังจากนั้นก็ได้รับการยืนยันจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ว่า พบเห็นชายสูงวัยลงมาเปิดกระบะท้ายและปล่อยหมาลงมาจากรถทิ้งไว้ในบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะขึ้นรถขับหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไป

หลังจากนั้นพบคลิปภาพที่น้องหมาวิ่งตามรถกระบะจนกระทั่งออกจากซอยมาถนนสายหลักหน้าเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ซึ่งหมาตัวดังกล่าวพยายามเห่าวิ่งตามรถแล้วแต่ไม่ทัน และเจ้าของก็ไม่ยอมจอดรถและขับรถหลบหนีไป สร้างความหดหู่ใจแก่ผู้พบเห็น เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสันผีเสื้อจึงได้นำสุนัขมาดูแลเบื้องต้น หาน้ำหาอาหารให้กิน แต่ไม่ยอมกิน ได้แต่นั่งรอคอยเจ้าของและน้ำตาไหลตลอดเวลา  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามจนทราบตัวเจ้าของสุนัขแล้ว

ล่าสุด ในคืนที่ผ่านมานายภาวิต บุญชละ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ได้นำหลักฐานพร้อมน้องหมา เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง เพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าของสุนัข ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 23 จนกว่าคดีจะถึงที่สุด