สิ้นชื่อก่อนชก นักมวยดังขี่ จยย. ชนเสาไฟ เสียชีวิตคาที่

เช้านี้ที่หมอชิต - นักมวยชื่อดัง “นำโชค พ.นางรอง” ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวกับเพื่อน ก่อนเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิตคาที่ พ่อมาเห็นศพลูกถึงกับเข่าทรุด เผยมีคิวชกที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) แต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน

ภาพเหตุการณ์ขณะที่ นายประเสริฐ อายุ 52 ปี เดินทางมาดูศพลูกชายที่ขี่รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต เมื่อพ่อมาเห็นร่างลูกก็ถึงกับเข่าทรุด ร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ สร้างความเวทนาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นช่วง 03.00 น. เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) บริเวณหน้าวัดผักหวาน ตำบลถนนหัก อำเภอนางรอง รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุชนอัดกับเสาไฟฟ้าสภาพพังยับเยิน และพบศพ นายโชติพัฒน์ คนสูงเนิน อายุ 24 ปี เป็นนักมวยชื่อดังในพื้นที่ ฉายา “นำโชค พ.นางรอง” เสียชีวิตติดอยู่กับซากรถจักรยานยนต์

นายเด่น เพื่อนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในสภาพโศกเศร้าเสียใจอย่างมากเช่นกัน เล่าว่า ตนเองกับเพื่อนรวม 3 คน ชวนกันไปเที่ยวในตัวอำเภอนางรอง ขับรถจักรยานยนต์ไป 2 คัน ตนเองมีเพื่อนซ้อนท้าย 1 คน ส่วนผู้เสียชีวิตขับรถไปคนเดียว กระทั่งช่วง 03.00 น. จึงพากันกลับบ้าน โดยผู้เสียชีวิตขับนำหน้ามา ใช้ความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุเห็นเพื่อนขับพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างจังจนเสียชีวิตคาที่

ด้าน นายประเสริฐ พ่อผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายมีโปรแกรมจะขึ้นชกที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 พ.ค.) ก่อนลูกชายจะออกจากบ้านได้ทักว่าให้นอนพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้จะชกแล้ว แต่ลูกไม่เชื่อ ขับรถไปกับเพื่อน ตนเองเสียใจมากเพราะลูกชายอยู่ในวัยกำลังหาเงิน กำลังก้าวหน้าในการชกมวย ไม่คิดว่าจะจากไปก่อนวัยอันควรแบบนี้

เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต ในพื้นที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งกำลังมีพิธีบำเพ็ญกุศลศพของนายโชติพัฒน์ ผู้เสียชีวิต พบกับ นางสาวสุญาดา คงนันทะ อายุ 48 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกชายเป็นนักมวยฝีมือดีคนหนึ่ง เคยได้รับรางวัลทั้งคู่ดุเดือด และชนะเลิศหลายรายการ ถือเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว และกำลังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ คืนเกิดเหตุ ก่อนลูกชายจะขี่รถออกไปกับเพื่อน ตนเองได้ห้ามปรามแล้วว่าให้พักผ่อนเพราะจะมีชกที่จังหวัดสุรินทร์ แต่ลูกชายก็ไม่เชื่อฟัง

ส่วนสาเหตุที่ลูกชายเสียชีวิต ส่วนตัวเชื่อว่าเกิดจากรถจักรยานยนต์ของลูกชายมีความแรงเกินไป เพราะลูกชอบแต่งรถซิ่ง จากที่วิ่งได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ยังไปแต่งให้วิ่งได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าลูกชายน่าจะขับเร็วพอสมควร เพราะชื่นชอบความเร็ว จนทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น จึงอยากฝากเตือนวัยรุ่นทุกคนให้ดูกรณีนี้เป็นอุทาหรณ์