"เศรษฐา" ลงพื้นที่เมืองกรุงเหงา "ทักษิณ" คึก มุ่งกลยุทธ์พลังบ้านใหญ่
เช้านี้ที่หมอชิต - นายเศรษฐา แม้จะมีมรสุมลูกใหญ่รออยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ แต่หลังกลับจากภารกิจที่ต่างประเทศกว่า 10 วัน ท่านได้เตรียมลุยงานต่อทันที
ตามกำหนดการวันนี้ ท่านนายกฯ ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเป็นการด่วน หลังจากสัปดาห์ก่อนมีการเปิดตัวเลข GDP พบว่ามีการเติบโตเพียงร้อยละ 1.5 ซึ่งอยู่ในกลุ่มท้าย ๆ ของอาเซียน โดยมีรายงานว่า การประชุมที่จะมีขึ้นจะเป็นการหามาตรการระยะสั้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องการให้เห็นผลทันที
ขณะที่ตัวท่านนายกฯ เมื่อวานนี้ แม้จะเป็นวันหยุด ก็ออกไปสัมผัสวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ด้วยตัวเอง โดยท่านเลือกเริ่มต้นวันด้วยการไปกินก๋วยเตี๋ยวย่านทรงวาด พร้อมบอกว่า "เดินทางไปต่างประเทศร่วม 10 วัน ขอมาจัดก๋วยเตี๋ยวเนื้อทรงวาดสักหน่อยครับ ช่วงที่ผ่านมากินแต่เส้นสปาเกตตี้ วันนี้ได้เส้นเล็กหมี่แห้งเนื้อสดเปื่อย กับโอเลี้ยง อร่อยมาก ๆ ครับ"
นอกจากนี้ ท่านยังบอกด้วยว่า เมื่อเดินชมถนนสายท่องเที่ยวย่านทรงวาด ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ ร้านขนม แกลเลอรี ศิลปะ และเป็นเมืองเก่าที่มีตึกรามบ้านช่องสวยงาม และพอได้คุยกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในย่านนี้ เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคนที่ต้องการจะยกระดับให้ย่านนี้เป็นย่านเศรษฐกิจ คิดว่าจะต้องโพรโมตย่านนี้ให้มากขึ้น จึงได้ประสานกับ ททท. และผู้ว่าฯ กทม. ให้ช่วยกันจัดทำแผนสนับสนุนการท่องเที่ยวย่านนี้ให้ดีขึ้นอีก พื้นที่ศักยภาพแบบนี้ ภาครัฐต้องเร่งส่งเสริม
จากนั้น ในช่วงบ่าย นายกฯ เศรษฐา ลงพื้นที่ชุมชนบ่อนไก่ เขตคลองเตย ที่เคยถูกไฟไหม้เสียหายกว่า 100 กว่าครัวเรือน ถึงตอนนี้ยังพบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยที่แออัด และบางคนหลังเหตุเพลิงไหม้ก็ยังไม่มีที่อยู่อาศัย จึงรับปากว่าจะไปหาวิธีและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงสถาบันทางการเงินของรัฐ เข้ามาดูแลเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในเบื้องต้น เพื่อพัฒนาให้ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่เป็นชุมชนต้นแบบนำร่องแก่ชุมชนอื่น ๆ
สุดสัปดาห์เห็นภาพนายกฯ ไปปรากฏตัวตรงนั้นตรงนี้แบบเหงา ๆ ซึ่งอาจเป็นความตั้งใจของท่านที่อยากไปแบบส่วนตัว มีคนติดตามไม่กี่คน
แต่พอตัดภาพไปที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ดูเหมือนเป็นสุดสัปดาห์ที่สุดกระชุ่มกระชวยคนละบรรยากาศ เพราะได้ยกขบวนไปโคราช ถิ่นของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ต้องบอกว่าคึกคักเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจาก นายสุวัจน์ มาต้อนรับด้วยตัวเองแล้ว บรรดา สส. และรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย หลายคนก็มารอรับและติดตามไม่ห่าง แถมงานนี้ไม่มาเปล่า ยังมีลูกหยอดบอกว่าพูดแทนลูกสาวว่า "เดี๋ยวนายสุวัจน์ ก็จะมาเป็นกำลังหลักสำคัญของพรรคเพื่อไทย เพราะหัวหน้าพรรคอายุยังน้อยเลยต้องให้พ่อมาลิปซิ้ง ไม่กล้าเอ่ยปากชวนเอง" ซึ่งพอผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่พูดจีบนายสุวัจน์ บนเวทีต้องมาสู่ขอต่อหรือไม่ นายทักษิณ พูดเป็นนัย ๆ ว่า "ไม่ต้องหรอกพูดไปแล้วกลางอากาศเจ้าตัวก็รู้แล้ว ส่วนการมาโคราชครั้งนี้ก็เพราะมีงาน และที่จะไปจังหวัดปทุมธานีก็เพราะมีงานบวชในวันที่ 8 มิถุนายน นี้" ซึ่งถ้าสังเกตให้ดี จุดที่นายทักษิณ ไปเยือนส่วนใหญ่จะเป็นฐานของคนเสื้อแดงและมีบ้านใหญ่อยู่ด้วย ถือเป็นจังหวะก้าวทางการเมืองที่น่าจับตาไม่น้อย
เสาร์ไปโคราชแล้ว วันอาทิตย์ท่านก็ไม่หยุด นายทักษิณ เดินทางไปที่วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเรียกได้ว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ตั้งแต่จังหวะที่เมอซิเดสเบนซ์เข้าเขตวัด หลายคนบอกทะเบียนสวยมาก ดูกันเอาเองว่าสวยแค่ไหน
การมาในครั้งนี้ นายทักษิณ มาเพื่อเข้าพบ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว โดยนำปัจจัยจำนวนหนึ่ง รวมทั้งสิ่งของมาถวาย พร้อมทั้งสอบถามเรื่องไฟไหม้กุฎิ นอกจากนี้ยังได้มอบเงิน 200,000 บาท ช่วยครอบครัวเด็กไฟคลอกเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม จากนั้นจึงได้สนทนากันอีกหลายเรื่อง เช่น นายทักษิณ บอกว่า เรื่องไม่สบายใจตั้งแต่กลับมาประเทศไทย จะเห็นมีแต่ข่าวคนไทยจะนิยมทางสายมูกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่พระสงฆ์ก็จะมีแต่ข่าวการประพฤติตัวไม่เหมาะสม ทำให้ศาสนาพุทธรู้สึกเสื่อม เห็นมีแต่หลวงพ่อเป็นคนคอยเตือนสติ ซึ่งระหว่างสนทนาพูดคุยกันอย่างออกรส พระพยอมได้ให้เจ้าหน้าที่ของวัดนำมะม่วงน้ำปลาหวาน ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของวัดมาให้ทางนายทักษิณ ได้ชิมลิ้มลองรสชาติ คุยกันซักเกือบชั่วโมง นายทักษิณได้เดินทางกลับ ขณะที่ชาวบ้านแถวนั้นพอสบโอกาสก็ขอถ่ายรูปคู่นายทักษิณก่อนเดินขึ้นรถอย่างคึกคักคัก
