ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

หนุ่มเบลเยียมฆ่าเผาอำพรางศพเพื่อนร่วมชาติ อ้างถูกไถเงิน 8.5 แสนบาท

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ไปดักจับยาเสพติด แต่กลับพบฝรั่งชาวเบลเยียมมีพิรุธ ก่อนสกัดจับและสอบสวนจนทราบว่า ได้ลั่นไกสังหารเพื่อนร่วมชาติแล้วลากศพไปเผาอำพราง ก่อนนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งข้ามจังหวัด ล่าสุดมือยิงเปิดปาก อ้างถูกรีดไถเงิน ประกอบกับขู่จะทำร้าย ทนไม่ไหวจึงชักปืนยิงไป 3 นัด ก่อนอำพรางศพ

โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ทินกร ดวงแสงจันทร์ รอง.สว. สภ.เซกา จังหวัดบึงกาฬ ได้รับตัว นายสตีฟ โรชินญง อายุ 42 ปี สัญชาติเบลเยียม จากตำรวจกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 4 หลังจากถูกจับและรับสารภาพว่า ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .22 ยิง นายคริสโตปฟ์ เฮอร์โคต์ อายุ 49 ปี สัญชาติเบลเยียมด้วยกัน เสียชีวิตบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 10 ตำบลเซกาใต้ อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำอ่างกะซะ จากนั้นได้ลากศพไปไปเผาทำลายเพื่ออำพรางศพ จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบหาหลักฐานพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างตัวบ้านพักประมาณ 50 เมตร พบหลุมเก่าลึกประมาณ 2 เมตร มีเปลวควันไฟยังติดอยู่ จึงฉีดน้ำดับไฟให้มอดสนิท ก่อนใช้จอบตักเอาเศษกระดูกมนุษย์และเถ้าถ่านมาร่อน และนำกระดูกที่ยังไหม้ไม่หมดมาเรียงว่ารูปร่างใกล้เคียงกับ นายคริสโตปฟ์ หรือไม่

สอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า ผู้ตายมักจะมาขอเงินตัวเองใช้เป็นประจำ วันเกิดเหตุใกล้ค่ำวันที่ 24 พฤษภาคม นายคริสโตปฟ์ก็ยังตามมาขอเงินอีก ตนบอกไม่ให้ แต่ถูกผู้ตายพูดจาข่มขู่ว่าจะทำร้ายครอบครัว และจะเผาบ้านของตน ด้วยความโมโห จึงใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .22 ยิงใส่นายคริสโตปฟ์ จำนวน 3 นัด ก่อนจะล้มลงขาดใจตาย จากนั้นได้ลากศพไปโยนลงหลุมเก่า ใช้ยางรถยนต์ 2 เส้น พร้อมเศษไม้อื่น ๆ เผาอำพรางศพ จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์ผู้ตายใส่ท้ายรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Ford รุ่น Ranger สีส้ม ทะเบียน 1519 กรุงเทพมหานคร ใช้ผ้าใบสีฟ้าคลุมไว้หลังรถ ขับมาจอดทิ้งรถลงสระน้ำพื้นที่ ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม จึงถูกตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ที่กำลังซุ่มจับรถขนยาเสพติดพบพิรุธ จึงสกัดจับไว้ได้

ตำรวจตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก, ซองกระสุน 1 ซอง, กระสุน 6 นัด และปลอกกระสุน 3 นัด ไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (26 พ.ค.) พนักงานสอบสวน ได้สอบสวนนายสตีฟ ผู้ต้องหา พร้อมล่ามที่เป็นภรรยาและทนายความ มีพ่อตาและญาติ ๆ ฝั่งภรรยาของนายสตีฟ มาเยี่ยมให้กำลังใจ หลังสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง ร้อยเวรจึงนำตัวนายสตีฟ ออกจากห้องสอบสวนกลับเข้าห้องขังเพื่อรอส่งฝากขัง

โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณโกดังไม่มีเลขที่ อยู่ริมหนองกะซะ บ้านเซกาใต้ หมู่ 10 ตำบลเซกา โดยที่บริเวณห้องโถงเก็บเครื่องมือเป็นจุดทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันก่อนที่ นายสตีฟ จะยิงนายคริสโตปฟ์ ที่ชายโครง 3 นัด ยังพบร่องรอยคราบเลือดอยู่ และผู้สื่อข่าวได้เปิดเฟซบุ๊กของนายคริสโตปฟ์ มีคลิปที่นายคริสโตปฟ์ โพสต์ไว้วันที่ 4 กันยายน ปีที่แล้ว ขณะตัวเองขับรถไถปรับหน้าดิน ซึ่งคาดว่าเป็นที่ดินแปลงที่เกิดเหตุ ขณะที่มารับจ้างทำงานรายวันกับนายสตีฟ ผู้ต้องหา

ด้าน ญาติภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายสตีฟ เป็นคนจิตใจดี มีอาชีพเป็นช่าง แต่พอถูกคุกคามรีดไถจากเพื่อนร่วมชาติจึงเครียดมาก เพราะห่วงครอบครัว ที่ผ่านมาผู้ตายมาขอยืมเงินจากผู้ก่อเหตุตลอด หลัง ๆ มายืมไม่ได้ก็ข่มขู่ ซึ่งหลายครั้งมาก ทางผู้ก่อเหตุก็แจ้งผู้ใหญ่บ้านไว้ตลอด เพราะกลัวว่าผู้ตายจะมาทำร้าย แต่ผู้ตายก็ยังข่มขู่ รีดไถไม่หยุด และมาก่อกวนจนลูก ๆ ของผู้ก่อเหตุไม่ได้ไปโรงเรียน ซึ่งญาติ ๆ รู้สึกเห็นใจนายสตีฟอย่างมาก

นายนฤมิตร จำปาทอง ทนายความของนายสตีฟ ให้สัมภาษณ์หลังให้ปากคำเสร็จสิ้น โดยเปิดข้อความแช็ตทาง Messenger ที่นายคริสโตปฟ์ ผู้ตาย ส่งมาคุกคามรีดไถเงิน และข่มขู่ ให้ผู้ก่อเหตุหาเงินมาให้ 850,000 บาท ซึ่งผู้ก่อเหตุก็บอกไม่ให้ เพราะมีครอบครัวที่ต้องดูแล ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้แจ้งความถึงพฤติกรรมของผู้ตายที่ สภ.เซกา หลายครั้ง และร้องทุกข์ที่ตำรวจ ตม.บึงกาฬ และตำรวจ ตม. ก็นัดจะลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 25 พฤษภาคม แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน มีข้อมูลว่าที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุก็ช่วยเหลือผู้ตายมาตลอด เพราะไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ผู้ก่อเหตุก็จ้างให้มาช่วยงานที่โกดังที่เตรียมจะเปิดเป็นคาเฟ กับอู่ซ่อมรถ ส่วนคดีเบื้องต้นร้อยเวรได้ตั้งข้อหา 3 ข้อหา ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซ่อนเร้นอำพรางศพ และฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพ แต่ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนานั้นทำไปเพราะเหตุเกิดจากการป้องกันตัว ซึ่งญาติก็ไม่ประสงค์ที่จะประกันตัว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark