สาวสองร้องถูกน้าชายยิง-ข่มขู่ 1 เดือน คดีไม่คืบ ปมขัดแย้งที่ดิน

เช้านี้ที่หมอชิต - สาวสองร้องสายไหมต้องรอด ถูกน้าชายแท้ ๆ ใช้อาวุธปืนยิงบาดเจ็บสาหัส มูลเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องมรดกที่ดิน ผ่านมา 1 เดือน คดีไม่คืบ แถมยังถูกตำรวจบอกให้เอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ เพื่อจับคนร้ายอีกต่างหาก ถึงตอนนี้ผู้เสียหายกลัวมากจนไม่กล้ากลับบ้าน

คุณมานิตย์ อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย ถูกน้าชายอายุ 62 ปี ใช้อาวุธปืนยิงที่บริเวณไหล่ขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส เดินทางมาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังได้รับความเดือดร้อนเพราะถูกน้าชายทำร้ายร่างกายและข่มขู่คุกคาม เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลบ้านปักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

คุณมานิตย์ เปิดเผยว่า ก่อนที่น้าจะก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตนเอง มีความขัดแย้งกันเรื่องที่ดินมรดกของตาและยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ตากับยายมีลูกทั้งหมด 4 คน คือ แม่ของคุณมานิตย์ เป็นลูกคนที่ 2 มีน้าผู้หญิง เป็นลูกคนที่ 3 และน้าผู้ชาย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุเป็นลูกคนที่ 4 ส่วนลูกคนโตไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับมรดกดังกล่าว ก่อนหน้าที่ตาและยายเสียชีวิต ไม่ได้ทำพินัยกรรมแบ่งมรดกที่ดินไว้ ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น โดยผู้ก่อเหตุได้ยื่นจัดตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกและโอนย้ายที่ดินทั้งหมดเป็นชื่อของตัวเอง อ้างว่าจะแบ่งสันปันส่วนให้กับผู้เสียหายและน้าผู้หญิงคนที่ 3 แต่ผ่านไปหลายเดือน กลับไม่มีความคืบหน้าด้านการแบ่งมรดก แถมผู้ก่อเหตุยังมีความพยายามนำที่ดินซึ่งเป็นบ้านของตนไปจำนอง ตนจึงไปขอคัดคำสั่งเรื่องผู้จัดการมรดกที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจและคิดว่าพยายามคัดค้านและฟ้องร้องสิทธิ์ในการจัดการมรดก จึงลงมือใช้อาวุธปืนสั้นบุกเข้ามาในบ้านผู้เสียหายและยิงใส่หลายนัด

ถึงตอนนี้ผู้เสียหายยังคงรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะวันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุยังไม่ทันถามไถ่อะไรก็ชักปืนยิงใส่ ต้องวิ่งหนี ตอนนั้นเลือดออกมาก ล้มไปที่พื้นจนแขนเป็นแผลก็ต้องกัดฟันลุกขึ้นมาวิ่งต่อจนไปเจอคนช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ยังหวาดกลัวและไม่กล้าเดินทางกลับบ้าน และที่ทำให้กังวลมากขึ้นอีก คือพอไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกจากไม่มีความคืบหน้าและยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ แม้เวลาจะผ่านมานาน 1 เดือนแล้ว ตำรวจยังบอกว่าจะให้ตนเป็นตัวล่อในการจับคนร้ายด้วย จึงยิ่งทำให้ยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก