2 ทีมจากไทยทำผลงานเยี่ยม จบอันดับ 14-15 ในศึกซูเปอร์ จีที 2018

สปอร์ตแฟน - เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการแข่งขันศึกรถยนต์ทางเรียบจากญี่ปุ่น ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย อย่างรายการ Super GT 2018 ที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้นับเป็นสนามที่ 4 ของฤดูกาล จาก 8 สนาม โดย 7 สนาม จะแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น และอีกหนึ่งสนาม เป็นการแข่งขันที่ประเทศไทย นับเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ที่ได้สิทธิ์จัดการแข่งขันรายการนี้

แน่นอนว่าศึกรถยนต์ทางเรียบสัญชาติญี่ปุ่น ก็ต้องมีกลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นคือ สาว ๆ Race Queen ที่ส่งตรงมาจากแดนซามูไร เพื่อสร้างสีสันให้กับผู้ชม เรียกได้ว่าในช่วงเวลาพิตวอล์ค และกริดวอล์ค ได้อารมณ์เหมือนกับเดินชมรถแข่งในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ซึ่งเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพสาว ๆ Race Queen มาแจกความสดใสให้แฟน ๆ รายการสปอร์ตแฟน ได้ชมกัน

หลังจากที่สดชื่นกับสาว ๆ Race Queen กันแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผู้ชมหลักหมื่นคนในสนาม จะตื่นตาไปกับการแข่งขันรถยนต์สุดมัน ที่ว่ากันว่า มีผู้ชมกว่าล้านคนทั่วโลกเฝ้าติดตาม

โดยการแข่งขันจะมี 2 รุ่น รุ่นใหญ่อย่าง GT500 และรุ่นเล็ก GT300 ซึ่งตัวเลข 500 และ 300 คือตัวกำหนดแรงม้าสูงสุดของแต่ละรุ่นนั่นเอง

หลายคนคงสงสัยว่า 2 รุ่นนี้จะแข่งขันกันอย่างไร การแข่งขันจะแข่งพร้อมกัน 2 รุ่นในเวลาเดียวกัน ระยะทาง 300 กิโลเมตร กินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แข่งขันกัน 66 รอบสนาม

ซึ่งจุดสังเกตง่าย ๆ คือ รถแข่งรุ่น GT500 ไฟหน้าและพื้นหลังสติกเกอร์ของเบอร์รถจะเป็นสีขาว ส่วนรุ่น GT300 ไฟหน้าและพื้นหลังสติกเกอร์เบอร์รถจะเป็นสีเหลือง

การแข่งขันปีนี้มีนักแข่งอดีตแชมป์ฟอร์มูล่า วัน ปี 2009 อย่าง เจนสัน บัตตัน จากทีม Kunimitsu ทีมนำหลังผ่าน 3 สนามแรก ร่วมการแข่งขันด้วย ซึ่งรถของอดีตแชมป์เอฟวัน นั้น ถูกถ่วงน้ำหนักมากที่สุดในสนามนี้ เนื่องจากกฎที่ว่า รถคันไหนทำผลงานได้ดีในสนามที่ผ่านมา จะถูกถ่วงน้ำหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ สูงสุดถึง 100 กิโลกรัม และจะถูกเอาน้ำหนักออกก็ต่อเมื่อถึงสนามสุดท้าย ที่จะเปิดโอกาสให้รถทุกคันได้ฟัดกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ส่วนนักขับตัวแทนจากไทยมี 3 คน ในรุ่น GT300 ณัฐวุฒิ เจริญสุขะ กับณัฐพงษ์ ห่อทองคำ คู่หูจาก Arto Panther Team Thailand ที่ลงแข่งเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน จบอันดับที่ 15 สูงที่สุดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา และอีกคนคือ กันตธีร์ กุศิริ จากทีม est Cola by AAS Motorsport ที่ได้สิทธิ์ไวล์การ์ด จับคู่กับ Maxime Jousse คู่หูชาวฝรั่งเศส จบอันดับที่ 14

ซึ่งแชมป์รุ่น GT300 ตกเป็นของทีม Gainer ส่วนรุ่น GT500 Heikki Kovalainen และคามูอิ โคบายาชิ จาก Lexus Team SARD ส่วน เจนสัน บัตตัน อดีตแชมป์ฟอร์มูล่า วัน จบอันดับที่ 11 เสียตำแหน่งทีมนำหลังจากจบสนามที่ 4

และนี่คือบทสรุปและสีสันในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย อย่างรายการ Super GT 2018 ที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

สำหรับสนามต่อไปจะกลับไปแข่งขันต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สนาม ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ ระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคมนี้