ข่าวอื่นๆ

มาโน โพลกิ้ง และ ธีราทร บุญมาทัน แถลงข่าวก่อนนำทีมชาติไทย อุ่นเครื่อง เนปาล ตามปฏิทินฟีฟ่า


วันที่ 23 มีนาคม 2565 เวลา 16.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว สนามชลบุรี สเตเดียม ฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขัน ฟุตบอลอุ่นเครื่อง คู่ระหว่าง ทีมชาติไทยพบกับ ทีมชาติเนปาล

การแถลงข่าวครั้งนี้ ทางทีมชาติไทยได้ส่ง มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย และ ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทย เข้าร่วมการแถลงข่าว

มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า "ช่วงฟีฟ่าเดย์นั้นถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ได้รวมตัวกันไม่นาน แต่ก็เป็นเรื่องดีที่จะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งและทีมชาติไทยเองไม่ได้มีเกมเตะในประเทศมานานแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ จะได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลของทีมชาติไทย ต้องขอบคุณทางชลบุรีด้วยที่เป็นเจ้าภาพให้กับเกมนัดนี้ ส่วนทีมนั้นก็พร้อมจะลงเล่นกันแล้ว"

เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า "การที่เลือกเนปาลเป็นเพราะว่าพวกเขาเคยเจอกับศรีลังกาและมัลดีฟส์มาก่อน และเคยเอาชนะมาได้ด้วย ดังนั้นการเล่นกับเนปาลจะช่วยทำให้ได้รู้ระดับการเล่นของทีมที่จะต้องเจอทั้งสองทีม ซึ่งเป็นงานสำคัญของทีมชาติไทยที่จะต้องเอาชนะทั้งศรีลังกากับมัลดีฟส์เพื่อจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายเอเชี่ยนคัพ ที่ประเทศจีน"

ด้าน "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทยชุดนี้ กล่าวว่า "ดีใจที่ได้รับเลือกเป็นกัปตันทีมก็หวังว่าทีมจะทำผลงานได้ดีในทั้งสองเกม สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาดูมีความมุ่งมั่นและพยายามแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคนและหวังว่าจะได้แสดงศักยภาพของตัวเองในเกมอุ่นเครื่อง เพื่อจะมีโอกาสติดทีมชาติในรอบคัดเลือก เป็นตัวเลือกให้กับทีมชาติไทยต่อไป"

สำหรับทีมชาติไทยจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง จำนวน 2 เกม ดังนี้
วันที่ 24 มีนาคม 2565 เวลา 19.00 น. ณ สนามชลบุรี สเตเดียม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติเนปาล (อันดับที่ 167 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง)
วันที่ 27 มีนาคม 2565 เวลา 19.00 น. ณ สนามบีจี สเตเดียม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติ ซูรินาม (อันดับที่ 140 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง) 

โดยเกมอุ่นเครื่องดังกล่าว ได้รับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ในระดับ 'A' Match และมีการนำผลมาคำนวนคะแนนในฟีฟ่า แรงกิ้ง

นอกจากนี้ การแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าว ยังจัดภายใต้มาตรการการป้องกันการระบาดของโควิด-19 โดยอนุญาตให้ ผู้ชมเข้าสนามได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม และอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมการทำงานข่าวได้ทั้งหมด 60 ท่าน



ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark