ข่าวอื่นๆ

นายกฯสมยศ เรียกสต๊าฟโค้ชทีมชาติประชุมด่วน ประกาศกฏระเบียบในแคมป์ทีมชาติเพิ่มความเข้มงวด


ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีภารกิจในการเตรียมทีมชาติไทย ทุกชุดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทุกการแข่งขันนั้น ทางสมาคมฯ ได้มีการออกกฏระเบียบไว้อย่างชัดเจน ที่นักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชจะต้องปฏิบัติตามกฏ ดังนี้

1. ทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในทุกกิจกรรมของทีม
2. เคารพให้เกียรติทีมงานทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ของแคมป์เก็บตัว
3. แต่งกายเรียบร้อยตลอดเวลาที่อยู่ในแคมป์ (ฝึกซ้อม, ประชุมทีม, ทานอาหาร)
4. ตรงต่อเวลาในทุกกิจกรรมของทีม
5. ห้ามใช้โทรศัพท์ในกิจกรรมของทีม (สามารถใช้ได้แค่ในห้องพักขณะพัก)
6. ผู้เล่นต้องรายงานอาการบาดเจ็บและป่วยให้ทีมแพทย์, นักกายภาพ หลังการซ้อมทุกมื้อ
**กฎสำคัญหากละเมิดจะส่งกลับสโมสรทันที**
7. ห้ามออกนอกแคมป์เก็บตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นหรือไม่ได้แจ้งทีมงาน
8. ห้ามสั่งอาหารจากภายนอกหรือทานอาหารที่ทีมไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้
9. ห้ามมีสิ่งเสพติดมึนเมาทุกชนิด
10. ห้ามทะเลาะวิวาท

ทั้งนี้ด้วยกระแสข่าวที่ออกมา ทาง พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เรียกสตาฟฟ์โค้ช รวมถึงฝ่ายเทคนิคทีมชาติทุกคนมาหารือ พร้อมกำชับ สตาฟฟ์โค้ชทุกคน ที่ได้เข้าร่วมการเก็บตัวและดูแล นักกีฬาในการเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อทำการแข่งขันให้เข้มงวด ปลูกฝังทัศนคติที่ดียามที่นักกีฬามารับใช้ชาติให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในชุดเยาวชน ที่กำลังอยู่ในวัยที่ต้องมีผู้ให้คำแนะนำ เพื่อให้อยู่ในเส้นทางการเป็นนักกีฬาอาชีพต่อไปในอนาคต


โดย ซัลบาดอร์ บาเลโร่ การ์เซีย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U-19 กล่าวว่า "ที่ผ่านมา เรามีการชี้แจงกฏระเบียบ สำหรับนักกีฬาตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามารายงานตัวเสมอ ในการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ร่วมกัน ทั้งยามอยู่ในสนามและนอกสนาม พร้อมทั้งบทลงโทษที่ชัดเจนหากมีการละเมิด การทำงานเรานอกจากเรื่องซ้อมแท็คติก ปรับสภาพร่างกายและเพิ่มความฟิตแล้ว ทีมงานได้มีการพูดคุยกับนักกีฬาทั้งแบบกลุ่ม และแยกพูดคุยตัวต่อตัวกับนักเตะอยู่เสมอ เราพยายามยื่นมือช่วยเหลือเขาเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวต่างๆ เพื่อทุกคนได้มีสมาธิกับการซ้อมฟุตบอลมากที่สุด รวมถึงพยายามปลูกฝังเรื่องทัศนคติให้กับนักกีฬาอยู่ตลอดเวลา แต่แน่นอนว่าทั้งโค้ชและนักฟุตบอลต้องให้เชื่อใจกันและเคารพกันและกัน เพื่อยกระดับความเป็นมืออาชีพ ซึ่งหลังจากที่ได้ทราบข่าว ทางเราก็จะต้องเตรียมตัวในการเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์สำคัญของทวีป อย่างเข้มงวดทุกมิติ ทั้งในและนอกสนาม"


ด้าน พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U-16 กล่าวว่า”ทุกๆ ครั้งที่มีการเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อม เราจะเริ่มต้นด้วยการพูดคุย ตกลงกับนักเตะเพื่อแจ้งให้ทราบถึงกฎระเบียบในการเข้าแคมป์ของทีมชาติ เนื่องจากพวกเรารู้ดีว่าการทำงานในทีมชาติไทยรุ่นอายุนี้ ต้องมีความเข้าใจเรื่องของช่วงอายุ โดยเฉพาะอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการอยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ๆ ซึ่งการจะเป็นนักฟุตบอลระดับที่สูงขึ้นไป จะต้องได้รับการแนะนำ และเข้าใจความคิดของนักฟุตบอลด้วย ถึงอย่างไรเพื่อการเตรียมทีมสำหรับรายการสำคัญอย่างเอเอฟซี ที่จะถึงนี้ ผมได้พูดคุยกับทีมงานให้ยกระดับการทำงานให้เข้มงวด และอบรมให้ทุกคนมีความมุ่งมั่น มีวินัยกับการได้รับการเรียกติดทีมชาติ”

สำหรับทีมชาติไทยชุด U-19 โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก ที่โอมาน ช่วงเดือนกันยายน และทีมชาติไทย U-16 จะมีโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก ที่ประเทศเวียดนาม ช่วงเดือนตุลาคมนี้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark