โมโตจีพี ไทยแลนด์ ปิดฉากยิ่งใหญ่ โอลิเวียร่า พลิกคว้าชัย สมเกียรติ เจอฝนพลาดล้มแข่งไม่จบ

ไฮไลต์การแข่งขันอยู่ในรุ่น โมโตทู ชิงแชมป์โลก ซึ่งมี 2 นักบิดชาวไทยอย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย และ “เคเคซัง” เขมินท์ คูโบะ จาก ยามาฮ่า วีอาร์4 6 มาสเตอร์ แคมป์ ลงบิดท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มทั่วทั้งสนามของแฟนๆ ชาวไทย
จุดเปลี่ยนของเรซนี้เกิดขึ้นจากฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักก่อนเริ่มแข่งขันไม่กี่นาที ส่งผลให้กรรมการประกาศเป็น “เว็ตเรซ” และลดระยะทางลงเหลือ 16 รอบสนาม โดย สมเกียรติ ที่ได้ออกสตาร์ทจากโพลขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ขณะที่ เขมินท์ ก็ไต่จากกริดที่ 16 ขึ้นมาเกาะท็อปเท็นได้ตั้งแต่รอบแรกเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ในรอบที่ 2 ก็เกิดเหตุการณ์ดับฝันชาวไทย เมื่อ สมเกียรติ บิดเข้าโค้ง 4 ซึ่งมีปริมาณน้ำบนผิวแทร็กจากฝนที่เทลงมาอย่างหนัก ทำให้ล้มลงไปในโค้งดังกล่าว พลาดโอกาสคว้าชัยชนะในโฮมเรซอย่างน่าเสียดาย ส่วน เขมินท์ ไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 9 ก่อนที่กรรมการจะตัดสินใจตีธงแดง เพื่อยุติการแข่งขัน
แม้จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องประกาศให้จบเรซไป เนื่องจากฝนถล่มเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ผลปรากฏว่า โทนี อาร์โบลิโน นักบิดอิตาเลียนจาก เอลฟ์ มาร์ค วีดีเอส เรซซิ่ง ทีม คว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 15 นาที 10.854 วินาที โดยมี ฟิลลิป ซาลัช นักบิดเช็กจาก เกรซินี เรซซิ่ง โมโตทู เป็นอันดับ 2 ตามหลัง 0.251 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ แอรอน คาเน็ต นักบิดสแปนิชจาก เฟล็กซ์บ็อกซ์ เอชพี40 ตามหลัง 3.112 วินาที ด้าน เขมินท์ คว้าอันดับ 9 ไปครองในโฮมเรซ นับเป็นผลงานดีที่สุดในฤดูกาลนี้
ส่วนรุ่นใหญ่อย่าง โมโตจีพี ต้องล่าช้าออกไปกว่า 1 ชั่วโมงจากฝนที่ถล่มลงมาอย่างหนัก แต่แฟนความเร็วชาวไทยก็ไม่ย่อท้อ โดยเรซนี้ต้องดวลในสภาพแทร็กเปียก ผลปรากฏว่า มิเกล โอลิเวียร่า นักบิดโปรตุกีสจาก เรดบูล เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี่ เรซซิ่ง ไล่แซงคู่แข่งจากกริดที่ 8 ขึ้นมาคว้าชัยชนะไปอย่างเหนือชั้น ด้วยเวลา 41 นาที 44.503 วินาที เหนือ แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนจาก ดูคาติ เลโนโว ทีม อันดับ 2 เพียง 0.730 วินาที ตามด้วย ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า รองจ่าฝูงชาวอิตาเลียนในอันดับ 3 ตามหลัง 1.968 วินาที

ด้านเกมในรุ่น โมโตทรี ถือเป็นเรซเดียวที่ได้แข่งแบบแทร็กแห้ง ผลปรากฏว่า เดนนิส ฟอกเจีย นักบิดอิตาเลียนจาก เลพเพิร์ด เรซซิ่ง คว้าชัยชนะไปครองแบบม้วนเดียวจบด้วยเวลา 37 นาที 52.331 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง อายูมุ ซาซากิ นักบิดญี่ปุ่นจาก สเตอริลการ์ด้า ฮัสควาน่า แม็กซ์ เพียง 1.524 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ริคาร์โด รอสซี่ นักบิดอิตาเลียนจาก ซิค58 สควอดร้า คอร์เซ ตามหลัง 2.804 วินาที
สำหรับประเทศไทยได้รับการบรรจุในปฏิทินการแข่งขัน โมโตจีพี 2023 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยถูกกำหนดเป็นสนามที่ 18 ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม 2566 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย


