|
นิวัฒน์ อินสะอาด ชี้แจงสาเหตุให้จุดโทษ ก่อนถูกสั่งแบน 2 เดือน
นิวัฒน์ อินสะอาด ผู้ตัดสินชั้น 1 ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกมาโพสต์ข้อความอธิบายถึงจังหวะจุดโทษปัญหา จนทำให้ถูกลงโทษแบนถึง 2 เดือน
โดย นิวัฒน์ อินสะอาด ได้ถูกลงโทษห้ามลงทำหน้าที่ 2 เดือน หลังจากเป่าให้จุดโทษกับ อุทัยธานี เอฟซี ในช่วงท้ายเกม จนถูกสโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ส่งเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน ไปยังคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท
ซึ่งล่าสุด นิวัฒน์ อินสะอาด ได้ข้อความอธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านทางเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า “บางครั้งคำว่าตัดสินมั่วๆ หรือรับเงินหรือเปล่า ขอใช้ช่องทางเล็กๆ แห่งนี้อธิบายในส่วนที่ผมเห็นเหตุการณ์เพียงเสี้ยววินาที”
“อันดับแรกผู้เล่นสีส้มคือฝ่ายรับผู้เล่นสีดำคือฝ่ายรุก โดยผู้เล่นฝ่ายรุกรับบอลมาจากผู้เล่นฝ่ายเดียวกันและกำลังจะวางเท้ายิงประตูโดยมีลูกบอลอยู่ที่เท้าด้านขวาพร้อมที่จะยิงประตู โดยมีผู้เล่นฝ่ายรับวิ่งตามมาจากด้านหลังและพยายามเข้าแย่งชิง”
“โดยสังเกตจากแขนขวาเข้าไปบริเวณลำตัวของฝ่ายรุก พร้อมกับขาขวาเข้าขยับตามสัดส่วนของลำตัว ซึ่งขาขวานี่เองที่ไปกีดขวางการยิงของผู้เล่นฝ่ายรุก ในขณะที่ผู้เล่นฝ่ายรุกกำลังจะยิงประตู
“บางคนบอกว่าเตะวืดมั่ง ไม่โดนมั่ง อยากให้ดูภาพเคลื่อนไหวจะเห็นว่ามีจุดสัมผัสและเท้าผู้เล่นฝ่ายรุกสบัดอย่างชัดเจนพร้อมทั้งให้สังเกตว่าลูกที่ผู้เล่นฝ่ายรุกวางเท้าครั้งแรกกำลังเคลื่อนที่มาทางด้านเท้าซ้ายที่กำลังจะยิงประตูพอดี”
“ถ้าหากไม่โดนผู้เล่นฝ่ายรุกกีดขวางก่อนก็จะโดนลูกบอลพอดี ผมจึงพิจารณาให้เป็นจุดโทษ ถึงอย่างไรผมก็บอกผู้เล่นว่า VAR เช็กอัตโนมัติอยู่แล้วแต่ครั้งแรกพี่เห็นตามที่ได้อธิบาย”
“ตามหลักของ VAR หากผู้ตัดสินกับ VAR เห็นเหมือนกันก็ไม่ต้องแทรกแซงหรือไปดูจอ สิ่งที่ผมพูดทุกคำคือความจริง ไม่ได้พูดเพื่อแก้ตัวหรือแย้งกับผลพิจารณาแต่ผมก็ตัดสินตามหลักวิเคราะห์ของผมตามกติกา”
“ผมเป็นครู มีจรรยาบรรณมีวิชาชีพครู และมีลูกศิษย์มีน้องผู้ตัดสินหลายคนที่มีผมเป็นแบบอย่างอยู่ การกระทำใดก็แล้วแต่ที่จะไม่ถูกต้องผมไม่เอาชื่อเสียงและศรัทธามาหยุดแค่นี้แน่นอน และสุดท้ายผมเป็นผู้ตัดสินผมให้เกียรติทุกทีมไม่ว่าจะทีมใหญ่หรือทีมเล็กในT1”
“ส่วนการพิจารณาถ้ามันออกมาจากคณะวินัย อย่างไรผมก็น้อมพร้อมจะแก้ไขเพื่อพัฒนาต่อไปผมลูกผู้ชายพอเมื่อผิดก็ต้องยอมรับผิดครับ”
โปรแกรมฟุตบอล ไทยลีก วันนี้ : สัปดาห์ 19 วันที่ 23 - 25 ก.พ.
