ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คุก 10 ปี ลุงวิศวะ ยิงวัยรุ่นอายุ 17 ปีเสียชีวิต

ประเด็นเด็ด 7 สี - ศาลจังหวัดชลบุรีอ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์คดีนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือลุงวิศวะ โดยยืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 10 ปี หลังก่อเหตุยิงชายอายุ 17 ปี เสียชีวิต ในจังหวัดชลบุรี เมื่อปี 2560

ความคืบหน้าคดีที่นายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ หรือ ลุงวิศวกร ใช้ปืนยิงนายนวพล ผึ่งผาย หรือ ปอนด์ อายุ 17 ปี เสียชีวิต หลังจากที่มีปากเสียงกับนายนวพลพร้อมพวก เรื่องที่จอดรถบริเวณร้านอาหารย่านอ่างศิลา ในตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560

คดีนี้อัยการสั่งฟ้องนายสุเทพในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเมื่อวันที่ 27 กันยายนปีที่แล้ว (2561) ศาลชั้นต้นได้พิพากษาสั่งจำคุก 15 ปี และมีการลดโทษหนึ่งในสามเหลือ จำคุก 10 ปี ปรับคดีอาวุธปืน 2,000 บาท จ่ายค่าสินไหมทดแทน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้องนั้น

ล่าสุดวันนี้ (10 ต.ค.) นายสุเทพ ซึ่งปัจจุบัน อายุ 52 ปี ในฐานะจำเลยได้เดินทางมาพร้อมภรรยา เพื่อฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดชลบุรีในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อพวกของผู้เสียชีวิตขับรถตู้มาจอดที่หน้าร้านขายของฝาก กีดขวางทางออกของจำเลย แล้วมีการโต้เถียงกันนั้นยังไม่ปรากฏว่ามีถ้อยคำพูดที่ไม่สุภาพจากฝ่ายใด

แต่หลังจากที่นายสุเทพกะพริบไฟใส่รถตู้ บีบแตรหลายครั้ง และเริ่มใช้คำพูดไม่สุภาพในลักษณะยั่วโทสะ โดยขณะนั้นยังมีปืนของกลางอยู่ใกล้ตัว แสดงว่าจำเลยและภรรยามีโทสะ และพร้อมที่จะมีเหตุวิวาทกับพวกของผู้ตาย ที่จำเลยได้อุทธรณ์อ้างว่าเหตุการณ์ขณะนั้นมีปากเสียงกันเพียงเล็กน้อย และจบลงแล้ว จึงฟังไม่ขึ้น

เมื่อพวกของผู้ตายขับรถตู้และรถเก๋งออกไปแล้ว หากจำเลยมีสติ รู้จักยับยั้งชั่งใจอารมณ์ร้อนบ้าง จอดรถรอสักพักหนึ่งก่อน เพื่อให้โทสะคลายลงแล้วค่อยขับรถออกไป เหตุทะเลาะวิวาทในคดีนี้คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

แต่นายสุเทพกลับขับรถตามไป และขับแซงรถตู้บีบแตรยาวใส่ แสดงให้เห็นว่าจงใจเจตนายั่วโทสะไม่ใช่การบีบแตรเตือน ดังที่อ้างในอุทธรณ์ และเมื่อจำเลยยั่วโทสะท้าทายจนฝ่ายผู้ตายโต้ตอบ และสมัครใจร่วมวิวาทกับจำเลยแล้ว จึงไม่อาจกล่าวอ้างว่า ฝ่ายผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อเหตุการณ์รุนแรงขึ้น จำเลยจึงต้องชักปืนออกมายิงเพื่อป้องกันชีวิตของตัวเองและคนในครอบครัว อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 10 ปี

หลังศาลพิพากษา นางสาวมณีพร ผึ่งผาย แม่ของผู้เสียชีวิตบอกว่า รู้สึกพอใจต่อคำตัดสินของศาล วันนี้ได้เห็นถึงความยุติธรรมที่มีอยู่จริง ซึ่งหลังเกิดเรื่องเธอและทางฝ่ายคู่กรณียังไม่มีการพูดคุยกัน และไม่มีการจ่ายสินไหมทดแทนเลย

ด้านนายสุเทพได้ให้ทนายความยื่นขอประกันตัว เพื่อขอสู้คดีในชั้นฎีกา ด้วยเงินสด 874,000 บาท เขาบอกว่า ยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่ต้องการสู้เพื่อให้ความจริงปรากฏ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark