ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ชายฉกรรจ์บุกอุ้มหนุ่มกลางงานบวช ใส่กุญแจมือซ้อมน่วม สุดท้ายอ้างเข้าใจผิด

เช้านี้ที่หมอชิต - สาวโพสต์พี่ชายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บุกอุ้มขึ้นรถกลางงานบวช ใส่กุญแจมือซ้อมน่วม สุดท้ายอ้างเข้าใจผิด คิดว่าเป็นอริของรุ่นน้อง ขอเคลียร์ให้ยอมความ 40,000 บาท ด้านญาติผู้บาดเจ็บไม่ยอม จะขอดำเนินคดี

นี่เป็นคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่บันทึกเหตุการณ์ขณะที่ชายฉกรรจ์ประมาณ 4 คน อาวุธครบมือ ขับรถกระบะมาจอดขวางหน้ารถของเธอ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะลงมาลากตัวพี่ชายของเธอขึ้นรถไปด้วย โดยคนที่เหลือในรถได้ถือปืนลงมาข่มขู่ ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปช่วยเหลือ ก่อนขับรถออกไป แต่จังหวะนั้นมีรถบรรทุกขับมาขวางไว้ ผู้ก่อเหตุจึงลดกระจกลงแล้วชักปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทางหลบหนี จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น

ต่อมาน้องสาวผู้เสียหายได้นำภาพและคลิปวิดีโอนี้มาเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า พี่ชายของเธอไม่เคยรู้จักกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาอุ้มตัว และถูกนำตัวไปซ้อมทำร้ายร่างกาย โดยใส่กุญแจมือ เอาผ้าคุมหัว เอาปืนตบที่หัวเลือดอาบหน้า เคราะห์ดีที่พี่ชายหนีรอดมาได้ แต่อยู่ในสภาพถูกซ้อมสะบักสบอม สุดท้ายทางฝ่ายคู่กรณีได้โทรมาขอโทษ บอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมเสนอเงิน 40,000 บาท ให้จบเรื่อง

ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามชายอายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นราว 07.00 น.วานนี้ (10 ก.พ.) ที่วัดแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ขณะที่เขากำลังเข้าร่วมงานบวชของเพื่อนที่วัด จู่ ๆ ก็มีชายฉกรรจ์อุ้มตัวเขาไปซ้อมในรถ โดยกล่าวหาว่าเขาเป็นคนสั่งให้ลูกน้องไปซ้อมน้องของเขาจนบาดเจ็บ จึงจะมาแก้แค้นให้ แต่เมื่อคุยกันแล้วจึงรู้ว่าเป็นการอุ้มผิดตัว กลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน จึงพาเขามาส่งที่ สน.ตลิ่งชัน และเข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อไกล่เกลี่ย

หลังตกลงกันเสร็จ ผู้บาดเจ็บยังไม่แจ้งความกับตำรวจในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ญาติของผู้บาดเจ็บไม่ยอม จะขอดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะผู้ก่อเหตุเป็นคนในละแวกบ้าน ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อน แต่กล้าก่อเหตุอุกอาจ ทั้งยังมีการขู่ทำร้ายและติดต่อขอจ่ายเงินค่าเสียหาย เพื่อตกลงยอมความกันอีกด้วย

ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดไปสอบปากคำต่อ ก่อนคุมตัวฝากขังในข้อหาพกปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น โดยในช่วงสายของวันนี้ (11 ก.พ.) ตำรวจจะเชิญผู้บาดเจ็บเข้าให้ปากคำอีกครั้ง เพื่อแจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark