ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

กรุงปักกิ่ง ล็อกดาวน์หลายเมือง ชี้โควิด-19 ระบาดใหม่เป็นสายพันธุ์จากยุโรป

เช้านี้ที่หมอชิต - หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่แบบกลุ่มก้อน ที่ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ในกรุงปักกิ่งของจีน ล่าสุดมีการขยายพื้นที่สั่งล็อกดาวน์หลายเมืองในกรุงปักกิ่ง ชี้โควิด-19 ระบาดใหม่เป็นสายพันธุ์จากยุโรป

ทางการจีนได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ในกรุงปักกิ่งหลายชุมชน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบกลุ่มก้อน ซึ่งทั้งหมดมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับตลาดซินฟาตี้ ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ในกรุงปักกิ่ง พร้อมห้ามผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงออกจากเมือง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคครั้งใหม่

มีรายงานล่าสุดว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 40 คน ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงปักกิ่ง 27 คน ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่งแล้วทั้งหมด 106 คน นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มิ.ย.)

หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยด้านระบาดวิทยา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน เปิดเผยว่า ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการหลังการแยกเชื้อโควิด-19 จากตัวอย่างในกรุงปักกิ่ง ระบุว่า แหล่งที่มาของไวรัสสำหรับการติดเชื้อครั้งใหม่นี้ มาจากนอกประเทศจีน

มีข้อมูลชี้ว่า การแพร่ระบาดในกรุงปักกิ่งครั้งนี้ แตกต่างจากที่เกิดขึ้นเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และยังบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า เป็นสายพันธุ์ไวรัสที่ระบาดใหญ่ ในประเทศแถบยุโรป แต่ไม่แน่ชัดว่าเชื้อโควิด-19 ติดมากับคน หรืออาหารที่นำเข้ามาในประเทศ

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของปักกิ่งต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ตั้งจุดตรวจตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจค้นหาผู้ป่วย และผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ พร้อมประกาศปิดโรงเรียน และมหาวิทยาลัยทั้งหมดในกรุงปักกิ่ง เริ่มตั้งแต่วันนี้ (17 มิ.ย.) เป็นต้นไป โดยยังไม่มีกำหนดชัดเจนว่าจะกลับมาเปิดเมื่อไหร่ ซึ่งในระหว่างนี้ ทางโรงเรียนแนะนำให้นักเรียนกลับมาเรียนออนไลน์อีกครั้ง

นอกจากนี้รัฐบาลยังประกาศให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น ในการออกนอกเมืองหลวง หรือหากใครจำเป็นที่จะเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง ต้องมีผลตรวจเชื้อมีค่าเป็นลบใน 7 วัน ก่อนออกเดินทาง

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อพุ่งกว่า 8.2 ล้านคนแล้ว เสียชีวิตกว่า 440,000 คน

สหรัฐฯ ยังเป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก ตามมาด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย อังกฤษ สเปน อิตาลี เปรู อิหร่าน และเยอรมนี

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark