ไม่กลัวโควิด-19 ชาวเยอรมันนับหมื่น ประท้วงมาตรการสวมหน้ากากป้องกันโรคละเมิดสิทธิ

เช้านี้ที่หมอชิต - ชาวเยอรมันนับหมื่นคน ออกมาประท้วงเต็มถนนในกรุงเบอร์ลิน ไม่พอใจมาตรการป้องกันโรค โดยเฉพาะการบังคับให้สวมหน้ากาก เพราะเป็นการละเมิดสิทธิ

ชาวเยอรมันประมาณ 17,000 คน ออกมารวมตัวกันในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ส.ค.) เพื่อเดินขบวนประท้วงต่อต้านข้อจำกัดที่เกิดขึ้น หลังรัฐบาลเยอรมนีใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ผู้ประท้วงครั้งนี้มีหลากหลายกลุ่มออกมาร่วมกันโบกธง และถือป้ายต่อต้านที่รัฐบาลบังคับให้สวมหน้ากาก เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม

ก่อนหน้านี้ ประเทศเยอรมนีได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ยังให้ประชาชนใช้มาตรการเพื่อป้องกันโรค ด้วยการสวมหน้ากากขณะอยู่ในที่สาธารณะ สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเยอรมนี ล่าสุดมีผู้ป่วยรวมกว่า 210,000 คน เสียชีวิตมากกว่า 9,000 คน

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเวียดนาม เมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม ระบุว่า มียอดผู้ติดเชื้อในประเทศรวม 621 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ขณะที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 คน โดยคนที่เสียชีวิตล่าสุด คือ หญิงอายุ 53 ปี ชาวเมืองดานัง

ทางการเวียดนาม ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดสถานบันเทิง ห้ามเดินทางเข้าออกเมืองดานัง เพื่อหยุดการแพร่ระบาด และวางแผนเข้าตรวจหาเชื้อกับประชาชนในเมืองดานังกว่า 1 ล้านคน เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคครั้งใหม่ พร้อมเปลี่ยนหอประชุมกีฬาในร่มในเมืองดานัง เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว เพื่อเตรียมรองรับผู้ป่วยโควิด-19

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในทั่วโลก ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรวมกว่า 18.3 ล้านคน เสียชีวิตเกือบ 700,000 คนแล้ว

10 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลก อันดับ 1 ยังเป็นสหรัฐฯ มีผู้ป่วยรวมกว่า 4.8 ล้านคน อันดับสอง บราซิล ตามมาด้วยอินเดีย รัสเซีย แอฟริกาใต้ เม็กซิโก เปรู ชิลี สเปน และโคลอมเบีย แซงอิหร่านขึ้นมาอยู่อับดับ 10 ของโลกแล้ว