สาวใช้แสบกุเรื่องโจรขึ้นบ้าน งัดตู้เซฟลักทรัพย์เกือบ 2 ล้านบาท แอบเอาไปฝังดิน

เช้านี้ที่หมอชิต - คู่พี่น้องชาวเมียนมา เข้ามาทำงานเป็นสาวใช้ แต่กลับร่วมกันวางแผนงัดตู้เซฟในบ้านนายจ้าง ขโมยทรัพย์สินมูลค่ารวมเกือบ 2 ล้านบาท จากนั้นกุเรื่องว่ามีโจรเข้ามาก่อเหตุ แต่พอถูกตำรวจเค้นสอบก็รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือเอง อ้างทำไปเพราะต้องการนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์และใช้หนี้

นี่เป็นภาพขณะตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม นำกำลังไปขุดหาของกลางที่ นางสาวไอซ์ อายุ 34 ปี และนางสาวเมย์ อายุ 31 ปี สองพี่น้องสัญชาติเมียนมา ขโมยจากตู้เซฟบ้านนายจ้างแล้วนำมาฝังดินไว้ บริเวณพื้นที่หมู่ 10 ตำบลบ้านปรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม โดยสามารถยึดของกลางเป็นแหวนทองคำล้อมเพชร 7 วง, สร้อยคอทองคำสุโขทัย น้ำหนัก 8 บาท 1 เส้น, จี้เพชรพร้อมสร้อยคอ 1 เส้น และเงินสดซึ่งได้มาจากการนำทรัพย์สินไปขาย จำนวน 321,000 บาท

จากนั้นตำรวจคุมตัวทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ทั้งคู่ให้การว่าใช้วิธีนำเหล็กชะแลงและมีด งัดแงะตู้เชฟ ใช้เวลางัดอยู่ 2 วัน จนสามารถใช้มือล้วงเข้าไปหยิบของมีค่าด้านในได้ จากนั้นก็นำทรัพย์สินบางส่วนไปฝังดินไว้ บางส่วนก็นำไปขายที่ร้านทองทั้งในจังหวัดสมุทรสงคราม และในกรุงเทพมหานคร

ก่อนหน้านี้ เจ้าของบ้านได้ทำกล่องไม้วางครอบตู้เซฟเพื่อพรางสายตา แต่ผู้ก่อเหตุอาศัยจังหวะช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ นำตู้เซฟไปซ่อนไว้ในห้องเก็บของหลังบ้าน และนำกล่องไม้มาครอบไว้เหมือนเดิม คนในบ้านจึงไม่ทราบว่าตู้เซฟหายไป

ผู้เสียหาย เล่าว่า เธอเพิ่งรับทั้งคู่มาทำงานได้เพียง 2 เดือน ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ทำตัวเป็นปกติไม่มีพิรุธ กระทั่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา เธอเพิ่งทราบว่ากล่องไม้ที่ซ่อนตู้เซฟวางผิดตำแหน่งจากเดิม เมื่อตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินภายในหลายรายการหายไป โดยในวันดังกล่าว นางสาวไอซ์ยังตีเนียน ทำทีมาบอกเธอว่ามีคนร้ายเข้ามางัดตู้เซฟ ต่อมาตำรวจเรียกทุกคนในบ้านไปสอบปากคำ จนในที่สุดทั้งสองพี่น้องก็จนมุม ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุ เธอรู้สึกเสียใจมาก เพราะรักทั้งคู่เหมือนลูก

โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาได้ยกมือไหว้ขอโทษนายจ้าง ขณะที่นายจ้างก็ยอมยกโทษและอโหสิกรรมให้

สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า หลังนำทรัพย์สินไปขาย ก็เอาเงินไปใช้หนี้และเล่นพนันออนไลน์ ต่อมาอีก 7 วัน จึงได้สร้างสถานการณ์โดยการนำตู้เซฟกลับมาวางคืนไว้ที่เดิม และแสร้งทำเป็นมีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ แต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับได้ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย