รวบแล้ว ผู้โดยสารแสบชิงรถแท็กซี่หนีข้ามจังหวัด

ประเด็นเด็ด 7 สี - ความคืบหน้าคดีที่ผู้โดยสาร อาศัยจังหวะที่คนขับรถแท็กซี่แวะเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน เชิดรถขับหนีไป ล่าสุดตำรวจแกะรอยไล่ล่าข้ามจังหวัด จนสามารถจับตัวได้แล้วในพื้นที่จังหวัดชลบุรี สอบสวนรับสารภาพ แฝงตัวไปเป็นผู้โดยสาร หาโอกาสขโมยรถแท็กซี่ หวังอยากได้รถไปขับหารายได้ ติดตามรายงานจากคุณสิริรัตน์ รัตนสิมานนท์

09.48 น. กล้องหน้ารถคันหนึ่งที่กำลังขับเข้ามาจอด ภายในปั๊มน้ำมันริมถนน 304 ในพื้นที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา จับภาพรถแท็กซี่สีชมพู-ขาวขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายคนขับรถแท็กซี่ วิ่งออกมาจากห้องน้ำ แล้วมองไปที่รถของตัวเองซึ่งถูกขับออกไปต่อหน้าต่อตา

คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ รับผู้โดยสารคนหนึ่งมาจากย่านหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยถูกว่าจ้างให้ไปส่งที่ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว เมื่อขึ้นรถมาได้ไม่นาน ผู้โดยสารก็มีพฤติกรรมแปลก ๆ และขอลองขับรถ แต่เขาปฏิเสธ ต่อมาอีกฝ่ายออกอุบายว่าปวดท้อง ขอแวะเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน จังหวะนั้นเขาปวดปัสสาวะพอดี จึงแวะเข้าไปในปั๊มดังกล่าว

ฝ่ายผู้โดยสารได้เดินเข้าห้องน้ำไปก่อน โดยมีเขาเดินตามไปทีหลังและได้จอดรถสตาร์ตเครื่องติดไว้ ต่อมาได้ยินเสียงคล้ายรถของตัวเองเร่งเครื่องขับออกไป จึงรีบวิ่งมาดู เห็นรถถูกขโมยไปแล้ว

หลังเกิดเหตุ ตำรวจแกะรอยระบบจีพีเอส (GPS) ที่ติดอยู่ภายในรถแท็กซี่ จนพบว่ารถไปอยู่ในพื้นที่อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี จึงประสานตำรวจท้องที่เข้าตรวจสอบ กระทั่งพบรถแท็กซี่คันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้บริเวณพงหญ้าข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลธาตุทอง

ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุ 41 ปี ได้หลบหนีไปขึ้นรถบัสโดยสารสายบ่อทอง-ชลบุรี ก่อนจะถูกตำรวจตามไปจับตัวไว้ได้ ที่บริเวณที่พักสายตรวจ สี่แยกหนองชาก ในอำเภอบ้านบึง จากนั้นคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชี้จุดหลังเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วขับรถหลบหนีไป

ด้านคนขับรถแท็กซี่ บอกว่า รู้สึกดีใจหลังได้รถคืน เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุขับรถไปที่บ้านแม่ โดยขโมยรถเพื่อต้องการนำรถแท็กซี่ไปขับหาเงิน

ด้านตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตกงานตั้งแต่ช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 จึงตัดสินใจขโมยรถแท็กซี่ โดยออกอุบายให้คนขับไปส่งที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อหาโอกาสขโมยรถ เมื่อได้รถมาก็ขับไปซุกไว้ที่บ้านแม่เพื่อรอให้เรื่องเงียบ แล้วจะใช้รถคันดังกล่าวไปขับรับส่งผู้โดยสารหารายได้ โดยไม่รู้ว่ารถติดจีพีเอส จากนั้นได้เดินมาขึ้นรถที่สถานีขนส่งเพื่อกลับไปหาภรรยาที่บ้านพักย่านหนองจอก แต่ถูกจับได้เสียก่อน

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติป่วยทางจิต และเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ด้านตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่น เพื่อครอบครองทรัพย์นั้นไว้ เพื่อนำไปขายหรือให้กับบุคคลอื่น นำตัวดำเนินคดี