แจ้งจับแม่ค้าหลอกขายเนื้อเก้ง สัตว์ป่าคุ้มครอง ที่แท้เป็นเนื้อหมู

เช้านี้ที่หมอชิต - แจ้งจับแม่ค้า หลอกขายเนื้อเก้ง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เจ้าหน้าที่ขู่ส่งตรวจดีเอ็นเอ เจ้าของร้าน เปิดปากยอมรับทันทีว่า ที่แท้เป็นเนื้อหมู

จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ กวดขันจับกุมร้านค้าลักลอบจำหน่ายเนื้อเก้ง-กวาง-หมูป่า ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แถมยังหลอกลวงผู้ซื้อว่าเป็นเนื้อสัตว์ป่า ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้วเป็นเนื้อหมู โดยให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

เมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ได้วางแผนล่อซื้อเนื้อกวางสดจำนวน 1 กิโลกรัม จากร้านอาหารแห่งหนึ่งราคา 290 บาท ในพื้นที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีนางสุภาวดี เข็มวิชัย เป็นเจ้าของภายหลังติดป้ายประกาศขายเนื้อเก้ง เนื้อกวาง และหมูป่า โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวให้ทราบ พร้อมนำของกลางเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.ไทรโยค และส่งเนื้อสัตว์ไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอต่อไป

ส่วนอีกรายเจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อเนื้อเก้ง ภายในตลาดสดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีนางสาวพรนภัส กาญจนศรีกุล เป็นเจ้าของร้านจำนวนหนึ่งกิโลกรัม ราคา 200 บาท โดยตอนแรกทางเจ้าของร้านได้แจ้งว่าเป็นเนื้อเก้งจริง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว กลับยอมรับว่า เป็นเนื้อหมู ซึ่งถือว่าเข้าข่ายฐานหลอกลวงผู้บริโภค

โดยเจ้าหน้าที่ได้นำหลักฐานดังกล่าวเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน และได้ส่งชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อยืนยันต่อไป

และพบว่า จากรายงานผลการพิสูจน์ชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าของกลางหรือดีเอ็นเอ พบว่าเนื้อสัตว์ที่เจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อจากทั้ง 2 ร้านค้าดังกล่าว เป็นเนื้อหมูธรรมดาที่ไม่ใช่เนื้อเก้ง หรือเนื้อกวาง ตามที่โฆษณาชวนเชื่อแต่อย่างใด

โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าแจ้งความตำรวจ 2 โรงพักอีกครั้งในช่วงสายของวันนี้ (15 ม.ค.) เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของร้านทั้งสองคน ในความผิดฐานหลอกลวงผู้บริโภค มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ