เฮ! เราชนะ จ่ายค่าเช่าบ้านได้ เปิดให้ลงทะเบียน 29 ม.ค.-12 ก.พ.นี้

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย กว่า 3 ล้านบัญชี น่าจะชวดเข้าร่วมรับสิทธิรับเงิน 7,000 บาท ผ่านโครงการ "เราชนะ" ที่จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในวันที่ 29 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่ผู้ร่วมโครงการ สามารถนำเงินช่วยเหลือไปจ่ายค่าเช่าบ้านได้ด้วย

1 ใน 7 เงื่อนไขของการเข้าร่วมโครงการ "เราชนะ" เพื่อรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล 7,000 บาท ในช่วงระยะเวลา 2 เดือน คือ ต้องเป็นผู้มีเงินฝากในบัญชีธนาคารไม่เกิน 500,000 บาท ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าคนไทยมีบัญชีเงินฝากทั้งสิ้นกว่า 105.4 ล้านบัญชี ในจำนวนนี้มีบัญชีเงินฝากที่มียอดคงค้างเกิน 500,000 บาท มากกกว่า 3.2 ล้านบัญชี ส่วนที่เหลือ 102 ล้านบัญชี มียอดฝากคงค้างไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเข้าข่ายได้รับเงินเยียวยาทั้งหมด เพราะกระทรวงการคลังจะตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอีกหลายข้อ

ด้าน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ชี้แจงผู้ไม่มีสมาร์ตโฟนก็สามารถร่วมโครงการ "เราชนะ" ได้ โดยรัฐบาลได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่ธนาคารของรัฐที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในกลุ่มนี้ด้วย

ขณะที่ผลสำรวจการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ.2562 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุ ประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 56.7 ล้านคน คิดเป็น 89.6% ของประชากรที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป และผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ตโฟน เข้าถึงอินเทอร์เน็ตค่อนข้างสูง คือ 96.4%

ส่วนคำถามทำไมไม่จ่ายเงินเข้าบัญชี แล้วให้ถอนเป็นเงินสดได้ เนื่องจากรัฐบาลเป็นห่วงเรื่องการสัมผัสธนบัตร ที่อาจทำให้ติดเชื้อโควิด-19 และยังคำนึงถึงเรื่องลดการแออัดที่ประชาชนจำนวนมาก ที่จะไปต่อคิวกดเงินสดออกจากตู้ ATM เหตุผลสำคัญอีกประการคือ ความต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า และให้เงินหมุนเวียนอยู่ในชุมชน พร้อมย้ำการเปิดรับลงทะเบียนเปิดกว้างให้บริการทั่วไป ร่วมโครงการได้ อาทิ ค่าใช้จ่ายกับรถจักรยานยนต์รับจ้าง, ค่าแท็กซี่ และผู้ที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านก็สามารถแจ้งให้ผู้รับเงิน เปิดแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" เพื่อรองรับการชำระค่าเช่าบ้านผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ได้เช่นกัน