ตร.คุมตัวมือฆ่าหั่นศพค้นหาของกลางเพิ่ม พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก

ประเด็นเด็ด 7 สี - กล้องวงจรปิดเผยภาพผู้ต้องหาหลังฆ่าหั่นศพสามี ได้ขับรถมาจอดในหอพักย่านนนทบุรี ก่อนเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งทำงานตามปกติ ล่าสุดตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดงมหาของกลางเพิ่มเติมที่ย่านบางนา ก่อนคุมตัวกลับไปดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ตำรวจพบชิ้นส่วนศพชายอายุ 54 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ถูกฆ่าตัดศีรษะ แขน ขา เหลือเพียงส่วนลำตัว ถูกนำมาเผาทิ้งอำพรางในป่ารกร้าง ริมถนนพื้นที่หมู่ 4 ตำบลชะแมบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ต่อมามีผู้พบชิ้นส่วนท่อนแขนและขา ถูกหั่นเป็นชิ้นรวม 6 ชิ้น อยู่บริเวณริมถนนบางปะอิน มุ่งหน้าอำเภอบางปะหัน ตำรวจสืบสวนพบว่าฆาตกรโหดรายนี้ คือภรรยาของผู้เสียชีวิต ที่ร่วมมือกับหลานชายฆ่า ก่อนลงมือหั่นศพในบ้านพักที่จังหวัดนนทบุรี

วานนี้ (3 มี.ค.) ตำรวจได้คุมตัวทั้ง 2 คนไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่จุดแรกที่หั่นศพในจังหวัดนนทบุรี เรื่อยไปจนถึงจุดทิ้งศพในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

1 เบาะแสสำคัญในคดีที่ตำรวจใช้สืบสวนจนจับตัวคนร้ายได้ คือภาพจากกล้องวงจรปิดของอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เผยให้เห็นภาพเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ช่วง 16.00 น. ชายอายุ 54 ปีได้ขับรถกระบะสีขาวเข้ามาจอดในลานจอดรถ เดินวนเวียนอยู่นาน 2 ชั่วโมง จนถึงช่วง 21.00 น. จึงขับรถออกไป และไม่ได้กลับเข้ามาอีก

ต่อมาช่วง 02.00 น. ของวันที่ 1 มีนาคม ตำรวจพบรถของเขาถูกขับไปที่อำเภอบางปะอิน และอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดพบชิ้นส่วนศพ

กระทั่งช่วง 07.00 น. รถของเขาถูกขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถในอะพาร์ตเมนต์จังหวัดนนทบุรีอีกครั้ง แต่คนที่เดินลงมาจากรถกลับเป็นภรรยาและหลานชาย ทั้ง 2 คนช่วยกันเก็บของที่ท้ายรถกระบะอยู่สักพัก ก่อนจะเดินไปเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งที่บ้านพักที่อยู่ในซอยใกล้เคียงอย่างใจเย็น เหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมาถูกตำรวจตามจับได้ในที่สุด

แต่จากการเข้าค้นบ้านพักเมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) ตำรวจไม่พบมีดของกลางที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ เช้าวันนี้ (4 มี.ค.) จึงได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนออกมาสอบปากคำเข้มอีกครั้งที่ สภ.วังน้อย โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า หลังก่อเหตุเสร็จได้ขับรถของผู้เสียชีวิตไปจอดไว้ที่อะพาร์ตเมนต์ตามภาพจากกล้องวงจรปิด จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยผู้เป็นหลานชายไปทำงานที่ย่านบางนา แล้วนำมีดและเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุไปโยนทิ้งลงคลองใกล้วัดศรีเอี่ยม ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหามาค้นหาของกลางเพิ่มเติม โดยใช้นักประดาน้ำทั้งหมด 4 คน ช่วยกันงมหาเพียง 3 นาทีก็พบมีดที่ก่อเหตุ แต่ไม่พบเสื้อผ้า ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหากลับไปที่ สภ.วังน้อย เพื่อสอบปากคำอีกครั้ง

ต่อมาช่วงเที่ยง พี่สาวได้พาลูกของผู้ต้องหาเข้ามาเยี่ยมแม่ที่โรงพัก เพราะลูกทั้ง 2 คนต้องเดินทางไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดแล้ว จึงขอเข้ามาพบหน้าแม่เพื่อร่ำลา ซึ่งผู้ต้องหาก็สวมกอดลูกทั้งน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวไปสอบปากคำต่อ

ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ปิดบังซ่อนเร้นศพ, ทำลายศพเพื่อปิดบังการเสียชีวิต และจะส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเช้าวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.)