แบไต๋7เอชดี (beartai7HD)

จริงหรือไม่ ?!? กล้องมือถือ เลนส์ยิ่งเยอะยิ่งดี

กล้องหลังมือถือทำไมมีหลายเลนส์ แล้วแต่ละเลนส์มีไว้ทำอะไร แล้วยิ่งมีเลนส์มาก ยิ่งดีกว่า จริงหรือ?

หนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือ สมาร์ตโฟน ในยุคนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “กล้องบนมือถือ” เพราะตอนนี้เราแทบจะใช้มือถือถ่ายรูปแทนกล้องไปแล้ว และในมือถือรุ่นหลัง ๆ ก็ไม่ได้มีกล้องเพียงเลนส์เดียวอีกต่อไป บ้างก็มี 2 เลนส์ หรือ 3 เลนส์ ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่า การที่มือถือมีเลนส์กล้องเยอะ ๆ ย่อมดีกว่ามือถือที่มีเลนส์น้อย ๆ ซึ่งอาจจะไม่จริงเสมอไป

ก่อนอื่น มาดูเหตุผลกันก่อนว่าทำไม ผู้ผลิตถึงต้องเพิ่มต้นทุนด้วยการใส่กล้องหลังมาหลาย ๆ เลนส์ด้วย นั่นเป็นเพราะสมาร์ตโฟน มีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะใส่เลนส์ซูมที่ยืดหดตัวโต ๆ แบบกล้องถ่ายรูปจริง ๆ ผู้ผลิตจึงต้องคิดใหม่ทำใหม่ โดยการใส่หลาย ๆ เลนส์เข้าไปในสมาร์ตโฟน เพื่อทำหน้าที่รับภาพต่างกัน อย่างเช่นสมาร์ตโฟนที่ยกตัวอย่างมา ในรุ่นนี้มี 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์มุมกว้างมาก, เลนส์ปกติ และ เลนส์ซูม 3 เท่า ส่วนรุ่นนี้ มี 4 เลนส์ โดยเลนส์ที่เพิ่มมา คือ เลนส์ซูมแบบ 10 เท่า

ซึ่งมือถือที่มีเลนส์มากกว่า ก็จะทำให้สามารถถ่ายภาพได้หลายระยะภาพมากกว่า แต่ก็อาจไม่ได้หมายความว่า จะทำให้ถ่ายภาพได้ดีกว่าเสมอไป เช่น สมาร์ตโฟนรุ่นหนึ่งมีเลนส์เพื่อถ่ายภาพมาโครหรือภาพระยะใกล้โดยเฉพาะ แต่กลับมีเลนส์ที่มีความละเอียดต่ำ ส่วนสมาร์ตโฟนอีกรุ่นหนึ่ง มีเลนส์น้อยกว่าเพราะไม่มีเลนส์ถ่ายภาพมาโครโดยเฉพาะ แต่เลนส์มุมกว้างมากมีความสามารถถ่ายมาโครอยู่ในตัวแล้ว กรณีนี้ สมาร์ตโฟนที่มีเลนส์น้อยกว่า อาจจะถ่ายภาพระยะใกล้ได้สวยกว่าสมาร์ตโฟนที่มีเลนส์มากกว่าก็ได้ หรือในสมาร์ตโฟนบางรุ่น ก็มีเลนส์พิเศษสำหรับช่วยถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้การซูมภาพทำได้ชัดขึ้น

ดังนั้น ก่อนซื้อมือถือให้ถามคนขายหรือหาข้อมูลว่าเลนส์ที่มีเยอะ ๆ นั้น แต่ละเลนส์ใช้ทำอะไรบ้าง ซึ่งเลนส์ที่ทำให้การถ่ายรูปดีขึ้นชัดเจน และควรมีเพิ่มจากเลนส์หลัก คือ “เลนส์ถ่ายภาพมุมกว้างมาก” และ “เลนส์ซูมภาพ” เราควรให้น้ำหนักกับ 2 เลนส์นี้ก่อน ส่วนเลนส์อื่น ๆ เช่น เลนส์มาโคร หรือเลนส์ช่วยถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ นั้น ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ ก็ให้น้ำหนักน้อยกว่าเวลาซื้อ

นอกจากนี้ ในกรณีของเลนส์ซูม เมื่อเรารู้ว่าจริง ๆ แล้วเลนส์ซูมในสมาร์ตโฟนเราสามารถซูมได้กี่เท่า เราก็ไม่ควรซูมมากกว่าระดับที่เลนส์ซูมจริง ๆ หรือที่เรียกว่า Optical Zoom ทำได้มากนัก เช่น ซูมเลนส์ได้ 3 เท่า ก็ควรจะซูมต่อถึงสัก 6 เท่าพอ เพราะระยะซูมหลังจากนี้จะเรียกว่า Digital Zoom ซึ่งก็เหมือนเป็นการขยายภาพเฉย ๆ ทำให้ภาพที่ได้ ออกมาแตก ไม่คมชัด

ดังนั้น ก่อนจะซื้อก็ควรเช็กรายละเอียดให้เข้าใจก่อนซื้อ และที่สำคัญต้องรู้ว่าเราซื้อมาเพื่อใช้งานอะไรเป็นหลัก บางที การลงทุนซื้อมือถือราคาแพง ๆ เพราะอยากได้ฟังก์ชันเยอะ ๆ แต่ซื้อมาจริง ๆ ใช้แค่ไม่กี่ฟังก์ชัน ก็ชวนให้รู้สึกเสียดายเงินเหมือนกัน

ติดตาม รายการ “แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark