นอกจากไลน์ แอปพลิเคชันแชตยอดฮิต ที่นิยมใช้เป็นส่วนมากในประเทศไทย วันนี้แบไต๋ พาไปส่องวิวัฒนาการบริการแชต ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าเราผ่านแอปพลิเคชันอะไรมาบ้าง วันนี้แบไต๋มีคำตอบ

คนไทยเราเริ่มใช้โปรแกรมแชตแรก ๆ ก็คือโปรแกรม Pirch 98 ที่เป็นโปรแกรมแชตที่ใช้เทคโนโลยี IRC (Internet Relay Chat) เพื่อให้เราสามารถคุยกันได้ทั้งแบบกลุ่ม และตัวต่อตัวกันเลย

ต่อด้วยโปรแกรม ICQ ที่เวลาเราพิมพ์แชตไปมาหากันก็จะมีเสียงแจ้งเตือน “โอ๊ะโอ !” เสียงดัง เวลาเราจะเพิ่มเพื่อนกันก็เพิ่มได้ผ่าน UIN หรือเลข ID ของแต่ละคนได้เลย

หลังจากนั้น เป็นโปรแกรมแชตยอดฮิตอย่าง MSN หรือเรียกว่า M โดยคนที่ใช้ MSN Messenger ก็จะได้ยินเสียง “ตุ่งดะดุ๊ง” กันจนเบื่อเลยทีเดียว ส่งมาคำนึง ก็ตุ่งดะดุ๊งที ทั้งนี้ โปรแกรม MSN เกิดขึ้นในปี 1999 เป็นโปรแกรมที่นอกจากจะใช้แชตหากันได้ แล้ว ยังสามารถส่งภาพ ส่งเสียง วิดีโอคอล ส่งอิโมติคอนทั้งแบบที่มีอยู่แล้ว และเพิ่มเข้าไปเองได้ด้วย แล้วก็มีปุ่ม Nudge หรือสะกิด ที่จะเขย่าจอโปรแกรมเรียกร้องความสนใจ ช่วงนั้นฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง จนเปลี่ยนชื่อเป็น Windows Live แต่น่าเสียดายที่ไมโครซอฟต์เกาะกระแสการแชตในสมาร์ตโฟนไม่ทัน จึงทำให้ Windows Live เสื่อมความนิยม และปิดตัวไปแล้วเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมานี่เอง

ยุคต่อมาก็คือสมาร์ตโฟนที่เน้นเรื่องของการพิมพ์แชตคุยกันอย่าง Blackberry นั่นเอง ช่วงนั้นเป็นเหมือนช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สมาร์ตโฟนอย่างจริงจัง เพราะมีการคุยกันผ่านโปรแกรมแชตในมือถือ Blackberry โดยเฉพาะที่ชื่อ "Blackberry Messenger หรือ BBM" ผ่านการแลก "พิน" ซึ่งสมัยนั้นนิยมกันมาก เวลาเจอหน้าเพื่อนก็ต้องแลกพินกันทุกครั้ง

โดยโปรแกรม BBM เปิดตัวเมื่อปี 2005 แต่มาฮิตในไทยปี 2007 สมัยนั้นเรียกได้ว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สมาร์ตโฟนก็ด้วยความสามารถในการแชตผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านเครือข่าย 3G หลังจากนั้น ก็มีโปรแกรมแชตบนสมาร์ตโฟนอย่าง Whatsapp เกิดขึ้นตามมาในปี 2009 ซึ่งชูจุดเด่นและออกมาฆ่า BBM ไปพร้อมกัน ด้วยฟีเจอร์การแชตที่ไม่ต้องผ่านอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง ใช้สมาร์ตโฟน iPhone, Android หรือกระทั่ง Blackberry เองก็สามารถดาวน์โหลดได้ ทำให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนทุกคนในเวลานั้นสามารถคุยข้ามแพลตฟอร์มกันได้หมด แถมยังมีแจ้งเตือนเมื่อข้อความเข้า ไม่ต้องคอยเปิดแอปตลอดเพื่อรับข้อความเหมือนโปรแกรมรุ่นเก่า ๆ ปัจจุบัน WhatsApp ไม่ค่อยนิยมในไทย แต่ยังเป็นแอปพลิเคชันแชตยอดนิยมในฝั่งตะวันตก

นอกจาก WhatsApp แล้ว ก็จะมีแอปพลิเคชันแชตยอดฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง Line ที่เข้ามาแทนที่ WhatsApp ตอนนั้น โดย WhatsApp เป็นแอปพลิเคชันที่ต้องเสียค่าใช้บริการถึงจะใช้ได้ แต่ไลน์เกิดมาเป็นแอปพลิเคชันฟรี ส่งสติกเกอร์ได้ด้วย คนจึงหันมานิยมใช้งานกันเป็นจำนวนมาก

Line เกิดขึ้นในปี 2011 ในฐานะแอปพลิเคชันแชตภายในของ Naver/NHN หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น และเปิดให้คนทั่วไปใช้ได้แบบไม่เสียเงิน แทนที่การส่งข้อความแบบ SMS และการโทรแบบเสียค่าใช้บริการ จุดขายของเขาเลยเป็นเรื่องของการส่งข้อความและการโทรออกแบบฟรี ๆ นอกจากนั้น ไลน์ยังมี "สติกเกอร์" ที่น่ารักถูกใจคนไทย ทำให้คนเริ่มย้ายไปใช้ Line กันอย่างแพร่หลาย ในปัจจุบันมีคนไทยใช้ไลน์ประมาณ 54 ล้านคน ส่วนทั่วโลกก็ประมาณ 180 ล้านคน

ติดตามรายการ แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35