ถ้าวันหนึ่งคุณไม่อยู่แล้ว ภาระทางการเงินจะตกอยู่กับคนที่คุณรัก หากไม่อยากให้ภาระดังกล่าวเป็นปัญหา ควรหันมาพิจารณาประกันชีวิตเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ประกันชีวิตเป็นการโอนความเสี่ยง ในกรณีที่เราเสียชีวิตหรือจากไปก่อนวัยอันควรให้กับองค์กรหรือบุคคลที่ 3  ก็คือบริษัทประกันให้ดูแลค่าใช้จ่ายแทนเราภายใต้เงื่อนไขก็คือเราทำทุนประกันไว้ บริษัทประกันก็จะเป็นการชดเชยแล้วก็จัดการความเสี่ยงจากการที่เราจากไปก่อนวัยอันควรให้ทั้งหมด

อยากจะแนะนำว่าให้ดูที่ความเสี่ยงของตัวเองก่อน ถ้าวันนี้เกิดไม่อยู่ มีใครไหมที่จะต้องเรียกว่าดำเนินชีวิตต่อไปไม่ได้ เพราะว่าทุกวันนี้เขาอยู่ได้ด้วยรายได้ของตัวเราเอง ก่อนจะไปดูกรมธรรม์ให้ดูวงเงินก่อนเป็นขั้นแรก ดังนั้นต้องหาสิ่งที่เรียกว่าทุนประกันที่เหมาะสม ทุนประกันที่ครอบคลุมความเสี่ยง

เสต็ปถัดมาคือการพูดคุยกับตัวแทนประกัน หรือว่านักวางแผนการเงิน เวลาจะคุยกับเขาต้องบอก 2 ส่วน 1.บอกทุนประกัน 2.บอกงบประมาณของตัวเอง และอาจจะบอกความจำเป็นเพิ่มเติมได้

ในส่วนของการประกันชีวิตมันจะมีรูปแบบที่สะสมมูลค่าไว้ให้ได้ จะมีประกันชีวิตประเภทตลอดชีพ แบบสะสมทรัพย์ แล้วก็แบบที่เป็น UNIT LINK แม้ว่าสุดท้ายแล้ว บุคคลที่ทำไว้จะไม่เป็นอะไรเลย มันก็จะมีการจ่ายเงินทุนประกัน คืนกลับมาให้เรา ก็ถือว่าเป็นเงินเก็บเงินออมในรูปแบบหนึ่งได้ รายละเอียดก็สามารถพูดคุยกับตัวแทนหรือนักวางแผนการเงินที่สามารถให้คำแนะนำได้

สำหรับคนที่กำลังคิดอยู่ อยากให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าวันนึงเราจากไป ใครจจะพึ่งพารายได้ได้บ้าง ส่วนเรื่องของทุนประกัน เอาหนี้+เงินตั้งตัว-ทรัพย์สิน-ทุนประกันเดิม ท้ายที่สุดอย่าลืมมองงบประมาณตัวเอง มองงบประมาณที่มี อย่าให้ลำบากชีวิตตัวเองก็พอ

ช่วงนี้ค่าไฟราคากำลังแรง อัตราการเก็บค่าไฟฟ้ามีหลากหลายรูปแบบ ในวันนี้เราจะมาพูดถึง อัตราค่าไฟฟ้าแบบ TOU กัน

อัตราค่าไฟฟ้าแบบ TOU ที่ย่อมาจากคำว่า Time Of Use หรือ อัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาของการใช้  เป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่สะท้อนถึงต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า

แบ่งเป็น  2  ช่วงเวลา คือ

On Peak  คือ ช่วงที่ค่าไฟฟ้ามีราคาสูง  เนื่องจากประเทศมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ทำให้ต้องหาเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้ต้นทุนสูง

Off Peak  คือ ช่วงที่ค่าไฟฟ้ามีราคาต่ำ เนื่องจากประเทศมีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ เลยไม่ต้องรีบผลิตเยอะ ๆ ใช้เชื้อเพลิงราคาต่ำ ทำให้ต้นทุนถูกลง

ซึ่งแบ่งช่วงเวลา ดังนี้

On Peak: เวลา 09.00 น. – 22.00 น.
วันจันทร์ - ศุกร์ และวันพืชมงคล (ที่ตรงกับวันจันทร์ - ศุกร์)

Off-Peak: เวลา 22.00 น. – 09.00 น. วันจันทร์ - ศุกร์ และวันพืชมงคล และ เวลา 00.00 น. – 24.00 น.  วันเสาร์ - อาทิตย์ วันแรงงานแห่งชาติ
วันพืชมงคล ที่ตรงกับวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการตามปกติ (ไม่รวมวันหยุดชดเชย)

ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันค่อนข้างมากเลย อย่างช่วง On Peak อัตราค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ 5.2674 บาท ต่อหน่วย แต่ช่วง Off Peak อัตราค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ 2.1827 บาท ต่อหน่วย จะเห็นได้ว่าห่างกันครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นควรใช้เวลาในช่วง off Peak ให้มากที่สุดเพื่อเป็นการประหยัดเงิน

นอกจากนี้ยังสามารถคำนวนค่าไฟได้จาก ระบบประมาณการค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และระบบการคิดค่าไฟของการไฟฟ้านครหลวงได้เลย

ติดตาม รายการ เงินทองของจริง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35