เงินทองของจริง

เรียนจบใหม่วางแผนการเงินอย่างไร

จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของชีวิตคือหลังเรียนจบ เมื่อเริ่มต้นทำงาน หลายคนเริ่มหางานสำหรับเด็กจบใหม่ เมื่อได้งานแล้วก็เริ่มมีความคิดที่จะเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคต แต่ก็มักจะมีปัญหาทุกสิ้นเดือนเพราะยิ่งมีเงินมากเท่าไหร่ก็เหมือนกับว่าจะไม่พอใช้ไปซะทุกที !

สําหรับใครที่เป็น First jobber หลักการง่าย ๆ 5 ข้อ

ข้อที่ 1 สําคัญมาก อยากให้เริ่มต้นให้เร็ว คือเรื่องของการเก็บออม อยากให้เริ่มเก็บออมทรัพย์ประมาณสัก 10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ที่ได้รับต่อเดือน เช่น ได้รับเงินเดือน 10,000 บาท อยากให้ออมสักพันนึง ตรงนี้อย่าไปไปตกใจมากว่า 10 เปอร์เซ็นต์เยอะจังเลย เพราะว่าบางทีมีตัวช่วยออมอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ใครทํางานราชการก็มีกบข. หัก 3% ใครทํางานเอกชนก็มีกองทุนสํารองเลี้ยงชีพหัก 3% หัก 5% ที่เหลือแล้วก็วางแผนเก็บเพิ่มสักหน่อย


ข้อที่ 2 ตัด 10 บาทไปแล้ว เราเหลือ 90 บาท 90 บาท ก็ต้องบริหารให้ดี พอเรามีเงินของเราเอง
เราก็จะเหมือนมีพลังวิเศษ อันนั้นก็อยากได้อันนี้อยากได้ เวลาเราได้เงินมา 100 บาท เราออมไปแล้ว 10 บาท เราจะเหลือ 90 บาท แล้วเราเอา 30 ไปหาร ตกวันนึงกินได้3 บาท คือประมาณ 3% ของรายได้

และถ้าวันไหนเรากินหรู กินแพงเกินไป บางทีมันก็ทําให้เงินไม่พอ แล้วเดี๋ยวก็จะไปแคะกระปุกที่อุตส่าออมไว้ออกมา เพราะฉะนั้นหลังจากเก็บออมแล้ว เราก็ต้องวางแผนว่าจะใช้อย่างไร ใช้กับอะไรบ้าง พยายามจัดเรื่องของความจําเป็นขึ้นมาก่อน พอสิ่งที่จําเป็นมันพอแล้ว ถ้ามันเหลือกรุบกริบ อันนี้แล้วแต่เรา เพราะเราออมไปแล้ว เราจะซัดเพื่อความสุขบ้างก็ไม่ว่ากัน

ข้อที่ที่ 3 ต้องวางแผนให้ดี เมื่อไหร่ก็ตามที่เราใช้สินเชื่อ แล้วมีภาระผ่อนต่อเดือนสูงจนเกินไปเดี๋ยวมันอันตราย เมื่อเราหาได้ 100 บาท ออม 10 บาท ถ้าเกิดเรามีภาระผ่อนหนี้สัก 30% เราจะเหลือเงินกินต่างๆ น้อยลง เพราะฉะนั้นเรากินใช้เนี่ยเอาให้มันเหมาะสมแล้วกัน


ข้อที่ 4 ระหว่างที่เราเก็บออม คนทํางานรุ่นใหม่ ๆ มีเวลา เงินน้อยแต่เรามีเวลา เพราะฉะนั้นให้แบ่งเวลาไปศึกษาเรื่องการลงทุน เราเข้าใจในสินทรัพย์อะไรมากสักหน่อย
ก็ให้เราเริ่มแบ่งเงินลงไปลงทุน ค่อย ๆ ทยอยลงทุน เพราะว่าคนที่ลงทุนและประสบความสําเร็จไม่ได้อาศัยความรู้จะมีเรื่องของประสบการณ์ด้วย


ข้อที่ 5 ชีวิตเรามีโอกาสที่จะเจอเรื่องไม่คาดฝันเพราฉะนั้นลองดูว่าสิทธิ์ต่างๆ ที่ เรามีพื้นฐาน เป็นทางราชการก็มีสิทธิ์ข้าราชการ เป็นพนักงานบริษัทก็มีสิทธิ์รักษาประกันสังคม แล้วก็สิทธิ์ของบริษัทที่อาจจะให้เรา หรือถ้าเกิดเค้าก็จะมีเรื่องบัตรทองบัตรต่างๆ มันเพียงพอไหม ถ้าเราคิดว่าโอเค พอความเสี่ยงของการเจ็บป่วยอุบัติเหตุเราไม่ได้เยอะ ก็อาจจะโอเค แต่ถ้าไม่พออาจจะกันเงินออม เอาไปจ่ายในส่วนของการประกันไว้บ้าง


ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ไปได้ที่ธนาคารออมสินได้ทุกสาขา

Call Center 1115

เว็บไซต์www.gsb.or.th
คิดถึงการออม คิดถึงธนาคารออมสิน เพราะธนาคารออมสิน ส่งเสริมการออม เพื่ออนาคตที่มั่นคง


เหล่านักเสี่ยงโชคที่ชื่นชอบในการเสี่ยงโชคในทุกวันที่ 1 และ 16 แบบนี้ หลายๆคนก็น่าจะได้รับโชคไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่ก็ตาม คำถามต่อมาคือ แล้วเราจะไปขึ้นเงินรางวัลที่ไหนถึงจะคุ้มค่าที่สุด

ที่แรกเลยนั่นก็คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั่นเองครับ โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมของเงินรางวัล 0.5% และสามารถขึ้นได้ทุกรางวัล

ที่ต่อมาคือ ธนาคาร ซึ่งจะมีธนาคารที่รับขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะมีค่าธรรมเนียมของเงินรางวัลที่ 1.5%

ที่ 3 คือ ร้านทอง อันนี้แล้วแต่ร้านที่มีกำหนดให้ขึ้นรางวัลสลากนะครับ ซึ่งจะเก็บค่าธรรมเนียม 1-3% ของเงินรางวัล

ที่สุดท้ายคือที่แผงสลากเลยนั่นเองครับ อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ที่ว่าแผงไหนรับขึ้นรางวัล แต่ส่วนมากจะรับรางวัลที่ไม่สูงมากนัก และเก็บค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 2-3%

พียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าที่ไหนคุ้มที่สุด หรือที่ไหนสะดวกที่สุด เพื่อให้ง่ายต่อการขึ้นรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลของทุกคน

ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark