เงินทองของจริง

เรื่องต้องรู้! ก่อนทำสัญญาซื้อบ้าน

ปกติใครหลาย ๆ คน ซื้อบ้านกับโครงการ ซื้อบ้านมือหนึ่ง จะมีกระบวนการทำสัญญาเยอะอยู่พอสมควร เวลาซื้อขายบ้าน จะมีสัญญาอยู่หนึ่งตัว เรียกว่า “สัญญาจะซื้อจะขาย”

สัญญาจะซื้อจะขาย หลังจากทำสัญญาเสร็จ ยังไม่ได้เกิดการซื้อขาย แค่เป็นการล็อกว่าจะซื้อจะขายเท่านั้น สัญญานี้ จะมีการระบุชัดเจนว่า ใครเป็นผู้ขายบ้าน ใครเป็นผู้ซื้อบ้าน จะซื้อขายบ้านกัน บ้านเลขที่เท่าไหร่ หรือถ้าเป็นที่ดิน ก็จะระบุโฉนดเรียบร้อย ซื้อขายในราคาเท่าไหร่ ณ วันที่ทำสัญญา มีการมัดจำกันไว้หรือไม่ 

อีกตัวหนึ่ง ที่สำคัญมาก ๆ และต้องระบุให้ชัด นอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐาน คือ ค่าใช้จ่าย โดยปกติเวลาซื้อขายกัน ถ้าไม่มีการกำหนดไว้ในสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ก็จะมีหน้าที่ที่ชัดเจน

ผู้ซื้อ – ผู้ขายจะเสียค่าโอนคนละครึ่ง
ผู้ขาย – จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

ในสัญญาจะซื้อจะขาย สามารถเขียนเป็นอย่างอื่นได้ เช่น สามารถผลักภาระทั้งหมด ยกให้เป็นของผู้ซื้อ และผู้ซื้อก็เซ็น ผู้ซื้อก็ต้องรับไปทั้งหมด ซึ่งภาระตรงนี้เสียหลาย % ต้องเจรจากันให้ชัดเจน สัญญาจะซื้อจะขาย จะกำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์ อีก 30-45 วัน นับจากนี้

เมื่อทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขาย มีสัญญากันคนละฉบับแล้ว ให้ไปติดต่อธนาคารทำเรื่องขอกู้ยืมเงินซื้อบ้าน เวลาจะไปกู้ธนาคาร ถ้าไม่มีสัญญาตรงนี้ จะไม่สามารถกู้ได้ 

สิ่งสำคัญให้ดูภาระค่าธรรมเนียมการซื้อขายบ้านให้ดี เพื่อที่จะไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง ตรวจสอบสำเนา โฉนดกับกรมที่ดินให้ดี ก่อนตัดสินใจทำสัญญา

สิ่งที่ต้องดูในสัญญา ก่อนซื้อบ้าน

- ดูรายละเอียดในสัญญาจะซื้อจะขาย
- ตรวจดูภาระค่าธรรมเนียม ใครเป็นคนจ่าย
- ตรวจสอบสำเนาโฉนดกับกรมที่ดิน


สำหรับใครที่ต้องโดยการรถไฟฟ้า ในการเดินทางมาทำงาน หรือกลับบ้าน ต้องฟังข่าวนี้เลยนะครับ เพราะปีหน้า รถไฟฟ้าเตรียมปรับขึ้นราคา จะขึ้นเท่าไหร่ ตอนไหน เงินทองของจริงมีคำตอบให้

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 จะปรับราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับ รถไฟฟ้าบีทีเอสในเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร 24 สถานี ได้แก่ สายสุขุมวิท สถานีหมอชิต – สถานีอ่อนนุช และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ - สถานีสะพานตากสิน รวมถึงส่วนต่อขยายสายสีลมสถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่ จากราคา 16 - 44 บาท ปรับเป็น 17 - 47 บาท

สาเหตุเกิดจากการไม่ได้ปรับค่าโดยสาร มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ทั้งนี้ การปรับราคาค่าโดยสารใหม่นั้น ยังต่ำกว่าเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดตามสัญญาสัมปทาน ซึ่งอยู่ในอัตรา 21.52 - 64.53 บาทนะครับ ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุคือค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนในการเดินรถไฟฟ้าสูงขึ้น

สำหรับใครที่เดินทางบ่อยๆ ก็ต้องเตรียมบริหารเงินเพื่อใช้ในการเดินทา

ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark