เปิดโพสต์บุลลี แม้ตายแล้ว ยังตามบุลลีอีก จ.ฉะเชิงเทรา

เช้านี้ที่หมอชิต - การเสียชีวิตของน้องปุ้ย เหตุจากการถูกบุลลี คนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน และคนในชุมชน ต่างโศกเศร้า แต่ก็ยังมีคนนำโพสต์ที่เพื่อนไว้อาลัยน้องปุ้ยไปแชร์ ด้วยข้อความที่บุลลีผู้เสียชีวิตซ้ำอีก

นี่คือโพสต์ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง แชร์เฟซบุ๊กเพื่อนของผู้เสียชีวิต โพสต์ไว้อาลัยแด่เพื่อนที่จากไปแบบไม่มีวันหวนกลับมา พร้อมภาพคู่ที่โรงเรียนตอนที่น้องปุ้ย ยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่ทำให้เพื่อน ๆ ของ น้องปุ้ย เจ็บปวด ก็ตรงที่ข้อความในการโพสต์ ระบุว่า "ตอนมีชีวิตกลิ่นเปรี้ยวยังแรงขนาดนี้ ตอนเป็นศพนี้กลิ่นจะขนาดไหน"

หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้โพสต์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์ แบบทัวร์ลงชุดใหญ่ ทำให้ผู้ชายในเฟซบุ๊ก แคปภาพคอมเมนต์ชาวเน็ต มาโพสต์พร้อมแคปชันว่า "งงครับอยู่ดี ๆ ก็มีทัวร์ลงมาด่าผมเต็มหมดเลย ถ้าจะด่าไปด่าอีกคนในร่างผมนะครับ ผมเป็นโรคมีหลายบุคลิก ตอนนั้นผมไม่ได้สติว่าทำอะไรให้คนพวกนี้โกรธ"

ทางทีมข่าว เช้านี้ที่หมอชิต จึงลองเข้าไปดูโพสต์ในเฟซบุ๊กที่ผ่านมาของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ก็พบว่า ทุกโพสต์จะเป็นการแชร์โพสต์เฟซบุ๊กของผู้อื่น แล้วตามด้วยข้อความเชิงบุลลี อย่างโพสต์แรก แมวอะน่ารัก แต่คนอะอุบาทแรง โพสต์ 2 แชร์โพสต์ผู้อื่นและระบุข้อความว่า "เด็กเวร" โพสต์ 3 แชร์โพสต์ผู้อื่นและระบุข้อความว่า "มึงไม่รู้หรอพอหลังกล้องมันก็บุลลีรุมตบหัวกัน ไอ้พวกชาวเน็ตหน้าโง่ เห็นอะไรก็เชื่อไปหมด" โพสต์ 4 แชร์โพสต์ผู้อื่นและระบุข้อความว่า 11 รด และอิโมจิดอกไม้ ตามด้วยคำว่า ทอง โพสต์ 5 แชร์โพสต์ผู้อื่นและระบุข้อความว่า "โอ่งมังกร" โพสต์ 6 แชร์โพสต์ผู้อื่นและระบุข้อความว่า i เด็กเวรตะไล

ยังมีอีกหลายโพสต์ อย่างการโพสต์ข้อความ "ขำไอพวกคนจนที่ฉลองวันเกิดในร้าน KFC อาหารที่หรูที่สุดสำหรับพวก…ก็แค่นี้สินะ" ยังมีอีก "ไอพวกอิสานเคาน์ดาว เมา มีความสุขกันให้เยอะ ๆ นะ เพราะปีใหม่พวก…ต้องกลับเข้าเมืองมาใช้แรงงานให้นายจ้างคนกรุงเทพ จิกหัวเหมือนเดิม" และอีกโพสต์ "ผมรังพวกคนแก่กับคนพิการหว่ะ แทนที่นอนรอวันตาย ในบ้าน ออกจากบ้านมาเป็นภาระสังคมอีก" 

ที่นำโพสต์เหล่านี้มาให้ดู ไม่ได้อยากจะโจมตีผู้โพสต์ หรือ สร้างความเกลียดชังในสังคม แต่อยากให้เห็น ทัศนคติของผู้โพสต์ที่ส่วนใหญ่มักจะโพสต์ไปทาง บุลลีผู้อื่น และในที่สุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ได้ปิดเฟซบุ๊กไปแล้วเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. กว่า ๆ ของวันที่ 22 มกราคม 2566

ส่วนเพื่อน ๆ ของผู้เสียชีวิต ต่างก็โพสต์พร้อมแฮชแท็กว่า #ต่อต้านการบุลลี ปัญหาการกลั่นแกล้ง หรือ บุลลี  ที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องล้อเล่น อาจไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อีกต่อไป เพราะจากข้อมูลมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ระบุปี 2563 เด็กไทยโดนเพื่อนรังแกมากที่สุดติดอันดับสองของโลก รองจากญี่ปุ่น โดยเป็นการบุลลี ด้วยการใช้ตัวอักษรผ่านโซเชียลมีเดีย ขณะที่ Punch Up x Wisesight เปิดข้อมูลพบว่า คำที่คนไทยใช้บุลลีมากที่สุดเป็นเรื่องรูปลักษณ์ เพศ และความคิดทัศนคติ อาทิคำว่า ไม่สวย, ไม่หล่อ, ขี้เหร่, หน้าปลอม, ผอม, อ้วน, เตี้ย, สิว ,ดำ, ขาใหญ่, จอแบน, เหยิน, เหม่ง, ตุ๊ด, สายเหลือง, ขุดทอง, กระเทย, ตลาดล่าง, ปัญหาอ่อน ทั้งนี้ ยังไม่รวมการกระทำล้อเลียนที่ทำให้อีกฝ่ายขายหน้า