เมื่อพูดถึง "บัตรเครดิต" บ้างก็ว่าหากใช้ดีก็ดีไป แต่บ้างก็ว่าอย่าไปใช้เลย เพราะเป็นการสร้างหนี้โดยใช่เหตุ สรุปแล้ว... "บัตรเครดิต" สำคัญกับชีวิตเราหรือไม่ ?

บัตรเครดิต ถือว่าเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการเงินของเรา เป็นความสะดวกสบายที่ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนเยอะ ๆ และยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น สามารถรูดใช้ไปก่อน และมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 45-50 วันโดยประมาณ ดังนั้น ถือว่าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือเบื้องต้นสำหรับคนที่อยากบริหารจัดการเงิน ที่สามารถมีได้

แล้วเราจะประเมินตัวเองอย่างไรดี ? ว่ามีความจำเป็นต้องสมัครบัตรเครดิตหรือไม่ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า "บัตรเครดิต" มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีคนถกเถียงกันว่าต้องพกคนละกี่ใบ เรื่องนี้ต้องบอกว่า ไม่มีข้อจำกัด หากเราสามารถบริหารจัดการเงินของเราได้ดี ไม่มีปัญหาใจการจ่ายคืน โดยหลักการเลือกบัตรเครดิตให้เหมาะกับตัวเรา มีหลัก ๆ ด้วยกัน 3 เรื่อง

เรื่องแรกที่ต้องดู คือ "ไลฟ์สไตล์" เพราะบัตรเครดิตแต่ละใบจะได้สิทธิประโยชน์ที่ต่างกัน บางใบอาจผูกกับห้างสรรพสินค้า ที่ได้สิทธิประโยชน์ในเรื่องที่จอดรถ หรือ Cash Back หรือบางใบอาจผูกกับการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะมีแต้มที่สามารถใช้แลกสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเดินทางได้

เรื่องที่ 2 คือ "จำนวน" การมีบัตรเครดิตหลายใบ จะต้องให้ความสำคัญเรื่องวันกำหนดจ่าย ซึ่งสอดคล้องกับการบริหารจัดการเงินของเรา หากหมุนเงินไม่ดี บริหารการเงินไม่ได้ จ่ายไม่ตรงเวลา ก็จะกระทบกับประวัติการชำระหนี้ของเรา

เรื่องที่ 3 คือ "วงเงิน" หากเรามีบัตรเครดิตที่ได้วงเงินใหญ่ ๆ เพียง 1-2 ใบ ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องมีหลายใบก็ได้ เพราะหากมีหลายใบ อาจทำให้เกิดความวุ่นวายในการจัดระเบียบการใช้จ่าย ซึ่งหากจ่ายผิดพลาดประการใด จะทำให้กระทบกับเครดิตที่ดีของเราด้วย

เมื่อรู้วิธีเลือกบัตรเครดิต ให้ถูกใจตามไลฟ์สไตล์แล้ว เรื่องถัดมาที่ต้องให้ความสำคัญ คือ "พฤติกรรมเสี่ยง" ที่อาจทำให้เราเป็นหนี้ได้ หากเราใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต แล้วชำระคืนเต็มจะนวน ตรงกำหนด จะถือเป็นการเคลียร์หนี้ ไม่มีภาระดอกเบี้ย แต่หากเราจ่ายขั้นต่ำ จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 16% ต่อปี ซึ่งจะมีการคิดจาก 2 ส่วน ทั้งค่าการใช้วงเงิน และหนี้คงค้าง จึงมีคำเปรียบเทียบว่า... การผ่อน "ขั้นต่ำ" คือการสร้างความเจ็บปวดทางการเงิน "ขั้นสูงสุด"

ดังนั้นการใช้บัตรเครดิต ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายให้ดี เพราะหากถึงขั้นที่ใช้ไปแล้ว แต่ไม่สามารถชำระคืนเต็มจำนวนได้ แสดงว่าเป็นสัญญาณฟ้องตัวเราแล้วว่า "ควรหยุดการสร้างหนี้จากบัตรเครดิตเพิ่ม" และต้องทยอยเคลียร์หนี้จากบัตรนั้นให้หมดก่อน ก่อนที่จะเข้าถึงการกู้ยืมเงินในรูปแบบต่าง ๆ หรือการรูดบัตรครั้งถัดไป

และอีกหนึ่งตัวที่น่ากลัว คือ "บัตรกดเงินสด" ซึ่งปัจจุบันมักพ่วงมากับบัตรเครดิต แต่มีการคิดดอกเบี้ยที่สูงกว่าถึง 25% ต่อปี เพราะเป็นลักษณะของวงเงินพร้อมใช้ และมีบางคนที่คิดว่าบริหารเงินมาจ่ายค่าบัตรเครดิตไม่ได้ จึงใช้บัตรกดเงินสดมาจ่ายแทน กล่าวง่าย ๆ คือ การนำดอกเบี้ย 25% มาจ่ายให้กับ 16% ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการเงินมากกว่าเดิมเสียอีก ดังนั้นต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ เพราะคำว่า "สินเชื่อ" ความหมายคือ "เงินคนอื่น" เมื่อใช้เงินคนอื่นแสดงว่ามี "ต้นทุน"

สุดท้ายแล้ว อาจสรุปได้ว่า "บัตรเครดิต" จะทำหน้าที่ได้อย่างสวยงาม ก็ต่อเมื่อเราใช้รูดซื้อของที่ต้องการ ณ เวลานั้น ๆ แล้วสามารถจ่ายคืนได้เต็มจำนวน โดยไม่เสียดอกเบี้ย และนำแต้มที่ได้ มาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการใช้บัตรเครดิตที่ทำให้รวยขึ้นนั่นเอง

ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35