เงินทองของจริง

อยากกู้ซื้อบ้าน มีมาตรการรัฐ ช่วยอย่างไรบ้าง

อยากมีบ้าน ซื้อบ้านสักหลัง จ่ายสดไม่สู้ ต้องกู้ธนาคาร อย่างนี้จะมีมาตรการอะไร ที่ช่วยแบ่งเบาภาระเราได้บ้าง ?

สำหรับคนที่อยากจะมีบ้านในปี้นี้ต้องบอกเลยว่าเป็นปีเงินปีทองของจริงสุด ๆ เพราะว่ามีมาตรการมาช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดอสังหาฯ ต้องต่อสู้กับวิกฤต โควิด-19 อย่างหนักมาโดยตลอด และเมื่อความทุกข์เริ่มคลี่คลาย ความสุขจึงเริ่มก่อตัวขึ้น

มาตรการที่ 1 โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ สนับสนุนสินเชื่อให้ประชาชนทั่วไปที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

- กู้ซื้อบ้านราคา ซื้อ-ขาย/ก่อสร้าง และวงเงินกู้สูงสุดต่อราย ต่อหลักประกัน ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
- ในส่วนของบ้านและคอนโดฯ ผ่อนนานสูงสุดถึง 40 ปี
- ยกเว้นค่าประเมิน
- ค่าจดทะเบียนนิติกรรม หรือ ค่าโอน 1%
- ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี
- เงินงวดคงที่นานถึง 60 งวดแรก
- วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,100 บาท
- วงเงินกู้ 1.5 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 6,200 บาท

มาตรการที่ 2 ช่วยในเรื่องของ ค่าโอน และ ค่าจดจำนอง ดังนี้

- ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ลดจาก 2% เหลือ 1%
- ค่าจดจำนอง ลดจาก 1% เหลือ 0.01%

มาตรการที่ 3 Loan to Value หรือ LTV จากธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยในการกำหนดวงเงินกู้ไม่เกินมูลค่าของหลักทรัพย์ เช่น บ้านราคา 1 ล้านบาท และกำหนด LTV เท่ากับ 100% หมายความว่าสามารถกู้เพื่อซื้อบ้าน 1 ล้านบาท โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th

เมื่อเรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการช่วยแล้ว คราวนี้จะมาดูกันว่า ระหว่างซื้อบ้านจัดสรร กับสร้างบ้านเอง แบบไหนจะคุ้มกว่ากัน ?

กรณีสร้างเอง จะมีข้อดีที่สุด คือ เราได้บ้านในแบบที่เราอยากได้ ทั้งหน้าตารูปลักษณ์ และฟังก์ชันการใช้งาน แต่จะมีความยากตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่มกู้ เพราะต้องมีที่ดินที่จะสร้าง มีแบบบ้านที่จะสร้าง และต้องมีรายละเอียดอุปกรณ์ในตัวบ้าน เรียกได้ว่าทุกอย่างต้องมีการออกแบบมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการกู้เพื่อสร้างบ้านยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า พื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านจะต้องไม่น้อยกว่า 25% ของพื้นที่ทั้งหมดด้วย

อีกทั้งในระหว่างการก่อสร้าง เรายังต้องเจอกับการต่อสู้กับผู้รับเหมา หรือแม้กระทั่งตัวเราเองในบางครั้งมีโอกาสที่จะอยากเปลี่ยนแบบบ้าน ก็จะมีความวุ่นวายและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากเจอผู้รับเหมาที่ดีก็จะช่วยแบ่งเบาภาระเราได้เยอะ แต่หากเจอผู้รับเหมาที่ไม่โอเคนักก็อาจทำให้เหนื่อยยิ่งขึ้นได้

กรณีที่ 2 การกู้ซื้อบ้านจัดสรร จะมีความง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเอกสารที่ไม่ต้องเตรียมเยอะ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ทางโครงการพร้อมดูแลครบวงจร ได้บ้านสวยพร้อมอยู่ แต่ก็ยังมีโอกาสเจอกับผู้พัฒนาโครงการบางรายที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไร ซึ่งอาจจะมีปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวบ้านตามมาภายหลัง เพราะเมื่อเรากู้ซื้อบ้าน เราจะเห็นเพียงภายนอก และรับรู้ข้อมูลตามเอกสารเพียงผิวเผินเท่านั้น แต่ปัญหาภายในตัวบ้านจะเริ่มแสดงออกมาก็ต่อเมื่อเราเข้าอยู่แล้วเป็นเวลาระยะหนึ่งนั่นเอง

ทั้งนี้การกู้เพื่อสร้างบ้าน หรือกู้เพื่อซื้อบ้านจัดสรร ก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับความพอใจหลาย ๆ อย่างของผู้อยู่อาศัย และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ "เพื่อนบ้าน" เพราะ การซื้อบ้าน=การซื้อเพื่อนบ้าน หากสภาพแวดล้อมบ้านหลังนั้นเป็นเช่นไรแล้ว เรามักจะได้เพื่อนบ้านเช่นนั้นด้วย ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน สนามข่าว 7 สี ช่วง "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark